การใช้สารเคมีให้ตรงกับโรคและแมลงของพืชต่าง ๆ

1. ชื่อสามัญ อบาแม็กติน 1.8 % หรือ 2 % กำจัดหนอนชอนใบ ป้องกันเพลี้ยไฟ ไรแตง – ไรขาว เป็นยาดูดซึม

มีฤทธิ์อยู่ได้ 7 – 15 วัน

วิธีการใช้ ใช้จากน้อยไปหามาก ถ้าเพลี้ย – หนอน ระบาด ใช้ 15 – 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ปกติ

ใช้ 10 – 15 ซีซี น้ำ 20 ลิตร

2. ชื่อสามัญ ไซเปอร์เมทริน 10% – 25% – 35% มี 3 อย่างให้เลือกใช้ เป็นยาน๊อค ประเภทถูกตัวตาย หมดฤทธิ์เร็ว

ไม่ใช้ยาดูดซึม เป็นยาค่อนข้างร้อน ถ้าใช้มากเกินไป จะทำให้ดอกร่วงได้ ฆ่าหนอน – แมลง (เต่าแตง) – มดตาย

ทันทีเมื่อฉีดถูกตัว

วิธีการใช้ ไซเปอร์ 10 % ใช้ 15 – 30 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร

25 % ใช้ 10 – 20 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร

35 % ใช้ 7 – 15 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร

3. ชื่อสามัญ คลอไพรีฟอส กำจัด ตระกูล หนอนเจาะดอก – เพลี้ยอ่อน – แมลงในดิน ตระกูลพืชกินหัวเสี้ยนดิน

– ดินหัน

วิธีการใช้ ใช้ 30 – 40 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร เป็นยาเย็นประเภทดูดซึมอยู่ได้ 10 – 15 วัน

4. ชื่อสามัญ มาลาไออ่อน 83 % – 50 % กำจัด เพลี้ยอ่อน – แมลงหวีขาว – เพลี้ยแป้ง – แมลงวันเจาะ

วิธีการใช้ ใช้ 30 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร เป็นยาเย็นชนิดดูดซึม อยู่ได้ 7 – 15 วัน

5. ชื่อสามัญ ไดเมทโธเอต 40 % กำจัด เพลี้ยอ่อน หนอนได้บ้าง เน้นเรื่องกลิ่น ๆ เหม็นมาก ทำให้แม่ผีเสื้อของหนอน

ไม่อยากมาวางไข่ ไล่แมลงวันทอง

วิธีการใช้ ใช้ 25 – 30 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร เป็นยาดูดซึม ค่อนข้างเป็นยาร้อน ใช้มากเกินไปจะทำให้ดอกร่วงได้ มีฤทธิ์อยู่ได้ 7 – 15 วัน

6. ชื่อสามัญ โอเมทโธเอต 40 % กำจัด เพลี้ยอ่อน แมลงวันทอง หนอนได้บ้าง เน้นเรื่องกลิ่น ๆ เหม็นมากเหมือน

ไดเมทโธเอต ผีเสื้อไม่ชอบมาวางไข่

วิธีการใช้ ใช้ 25 – 30 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร เป็นยาดูดซึม ยาเย็นไม่มีผลกับดอก อยู่ได้ 7 – 15 วัน

7. ชื่สามัญ เมโทมิล (เลนเนท) 40 กำจัด ฆ่าหนอนต่าง ๆ เพลี้ยอ่อน เป็นยาน๊อคประเภทดูดซึม

วิธีการใช้ ใช้ 25 – 30 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร มีฤทธิ์อยู่ได้ 6 – 14 วัน

8. ชื่อสามัญ อมิดาคลอสิก (คลอฟรีดรอ) กำจัด เพลี้ยไฟ – หนอน – แมลงหวีขาว – เพลี้ย – จักจั่น มะม่วง – เพลี้ย

กระโดด ในนาข้าว ทั้ง 4 ชนิด

วิธีการใช้ ใช้ 5 – 10 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร

(หมายเหตุ) อาการของพืชที่ถูกเพลี้ยไฟดูดกิน เช่น ใบหงิกห่อลง – ยอดพืชแข็งไม่เลื้อยต่อ

9. ชื่อสามัญ คาน่า สารเสริมฤทธิ์ช่วย คุม – ฆ่า ไข่เพลี้ย – ไข่หนอน ทำให้ไข่เพลี้ย – ไข่หนอน ไม่สามารถออกมา

เป็นตัวหนอนได้ ช่วยขัดผิด ขัดมันให้เงางาม

วิธีการใช้ ใช้ 20 – 32 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร ผสมไปกับการฉีดยาฆ่าแมลงได้ทุกครั้ง เพื่อช่วยให้ไข่เพลี้ย-หนอนฝ่อ จะทำให้ใช้สารเคมีน้อยลง ประหยัดต้นทุนลงได้ ตัวยาอื่น ๆ เช่น เตรตระไตรฟ่อน – ไคติน – ดิมิลิน

(หมายเหตุ) ยาที่เขียนมาทั้งหมด เป็นยาพื้น ๆ ส่วนยาที่มีราคาแพงๆ ยังมีอีกมากมาย

ขั้นตอนการผสมยาฉีดให้ได้ผลดีทุก ๆ ครั้ง ควรทำดังนี้

1. เอาน้ำใส่ในถังจำนวนที่จะฉีดพ่น

2. ควรใส่ยาจับใบ อย่างดี 2 – 3 ซีซี 20 ลิตร คนให้ละลายเข้ากับน้ำให้ดีก่อน เพื่อช่วยปรับสภาพน้ำให้เป็นกลาง

3. ควรใส่ยาประเภทธาตุอาหารเสริม (ฮอร์โมน) ตามอัตราข้างขวด

4. จากนั้นใส่ยาป้องกันเชื้อรา เช่น คาเบ็นดาซิม = 10 – 20 ซีซี น้ำ 20 ลิตร

5. ควรใส่ยาคุม – ฆ่าไข่หนอน 10 – 30 ซีซี น้ำ 20 ลิตร (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)

6. สุดท้ายใส่ยาฆ่าแมลงตามอัตราของยาแต่ละชนิด

วิธีการบวกยาฆ่าแมลงฉีดที่ได้ผลดี

1. ไซเปอร์ 35 % = 10 – 20 ซีซี + ยาแม็คติน = 10 – 20 ซีซี น้ำ 20 ลิตร (เพลี้ย – หนอน)

2. ไซเปอร์ 35 % = 10 – 20 ซีซี + คลอไพรีฟอส = 30 ซีซี น้ำ 20 ลิตร (เพลี้ย – หนอนเจาะดอก)

3. อบาแม็คติน = 10 ซีซี + คลอฟรีดรอ = 5 – 10 ซีซี น้ำ 20 ลิตร (หนอน – เพลี้ยไฟ – ไรแดง)

4. มาลาไทอ่อน 83 % = 30 ซีซี + แลนเนท = 20 – 35 กรัม น้ำ 20 ลิตร (เพลี้ย – หนอนเจาะดอก -หนอนต่าง ๆ)

5. คลอไพรีฟอส 83 % = 30 ซีซี + คลอนฟรีดรอ = 5 – 10 ซีซี น้ำ 20 ลิตร (หนอน – เพลี้ยไฟ – เพลี้ยอ่อน-

เพลี้ยแป้ง)

6. คลอไฟรีฟอส 30 % = 30 ซีซี + อบาแม็คติน = 10 – 20 ซีซี น้ำ 20 ลิตร (เพลี้ยไฟ – ไรแดง- หนอนเจาะ

ดอก- หนอนชอนใบ)

ยาฆ่าเชื้อราต่าง ๆ ที่ใช้ตามอัตราฉลากข้างกล่อง / ขวด

1. คาเบ็นดาซิม ป้องกันโรค ราสนิม – ราแป้ง – แอนแทรคโนส – ราน้ำค้าง

2. แมนโคเซบ + คอบเปอร์ ป้องกัน ราน้ำค้าง – แอนแทรคโนส – ราสนิม

3. ออโธ่ไซร้ ส่วนมากใช้ในกล้วยไม้

4. แอนทราโคล ป้องกัน ราน้ำค้าง – แอนแทรคโนส – ราสนิม

5. อมิสตา ป้องกัน ราแป้ง – ราน้ำค้าง – แอนแทรคโนส – ราสนิม

6. ยาซิลสัส – ทูริงยีส ป้องกัน โรครากเน่าคอดิน ในหน่อไม้ฝรั่งและผักอื่น ๆ

7. เชื้อไซโคเดอร์ม่า ป้องกัน รากเน่า – โคนเน่า – กิ่ง – ลำต้น เป็นเชื้อรา

8. เมทาแลคซิล 25 % ป้องกัน รากเน่า – โคนเน่า – โรคไส้ดำ – ใบจุดตาเรือ

รู้จักกับปุ๋ยเคมี และวิธีการใช้อย่างถูกต้อง

N 15 คือ ไนโตรเจน มีหน้าที่ เร่งการเจริญเติบโต ใส่แล้วพืชจะเขียวเข้ม โตเร็ว แต่อ่อนแอ

P 15 คือ ฟอสฟอรัส มีหน้าที่ การสร้างแป้ง- น้ำตาล ให้ต้นพืช เพื่อสะสมการออกดอก

K 15 คือ โพตัสเซี่ยม มีหน้าที่ ช่วยให้ผลผลิต มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น สร้างความหวาน เร่งให้แกเร็ว(ต้นโทรม)

เร่งการลงหัวของพืช

พืชตระกูล ผักกินต้น-ใบ

ใช้ปุ๋ยสูตร 25-7-7 หรือ 46-0-0 หรือ 21-0-0 หรือ 30-0-0 หรือ 30-10-10 และ 46-0-0 = 1 ส่วน

บวก 15-15-15 = 2 ส่วน ก็ได้พืชงามและแข็งแรง

พืชตระกูล กินฝัก-ผล

ช่วงปลูกระยะแรกใช้ 25-7-7 หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-16 และ 46-0-0 หรือ 30-0-0 หรือ 21-0-0

ระยะต้องการให้ออกดอก ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หรือ 12-24-12 และ 8-24-24 และ 0-0-60

พืชตระกูล กินหัว

ช่วงปลูกระยะแรกใช้ 25-7-7 หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-16 และ 46-0-0 หรือ 30-0-0 หรือ 21-0-0

ระยะเริ่มลงหัวใช้ 12-24-12 หรือ 10-30-10

ก่อนเก็บเกี่ยวใช้ 0-0-60 หรือ 0-0-50 และ 10-10-30

หมายเหตุ ถ้าต้นพืชเหลือง – แกรน ให้เพิ่มปุ๋ยตัวหน้า

ถ้าต้นพืชงามให้หยุดปุ๋ยตัวหน้า ใช้สูตรที่มีตัวกลางตัวท้าย เช่น 8-24-24