ผลกระทบต่อสุขภาพของโอโซน

เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของโอโซนอย่างเต็มที่ คุณจำเป็นต้องแยกเรื่องจริงออกจากเรื่องแต่ง โอโซนสามารถเป็นได้ทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดีขึ้นอยู่กับว่าอยู่ที่ไหนในชั้นบรรยากาศของเรา เช่นเดียวกับที่ผลิตภัณฑ์บางอย่างสามารถดีขึ้นหรือแย่ลงได้โดยขึ้นกับว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเพิ่มโอโซนที่ระดับพื้นดินซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพให้อากาศภายในอาคารของคุณหรือไม่ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องของ Blueair และการทดสอบโอโซน ‘ 

โอโซนคืออะไรและทำไมจึงมีความสำคัญ

โอโซน (O3) เป็นรูปแบบที่เกิดปฏิกิริยาได้ง่ายของออกซิเจน แก๊สสีฟ้าอ่อนที่เป็นพิษ ซึ่งมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่แหลมคล้ายคลึงกับคลอรีนและมีคุณสมบัติในทำให้การเกิดปฏิกิริยารวมตัวกับออกซิเจนที่รุนแรง สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติหรือถูกมนุษย์สร้างขึ้น

เมื่อพูดถึงการทำความเข้าใจผลกระทบด้านบวกหรือด้านลบของโอโซน คำโปรยของ EPA (สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ) ที่ว่า “ดีเมื่ออยู่สูง แย่เมื่ออยู่ใกล้” เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี นั่นเพราะว่าขึ้นอยูกับว่าอยู่ที่ไหนในชั้นบรรยากาศ โอโซนสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตบนพื้นโลกได้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี

เมื่อเกิดขึ้นในที่สูง (ส่วนหนึ่งของชั้นสตราโตสเฟรียร์ที่มีความเข้มข้นของโอโซนสูงกว่า ตั้งแต่ 2 ถึง 8 ppm) โอโซนเป็นสิ่งที่ดีเนื่องจากช่วยป้องกันแสงอัลตร้าไวอเล็ตที่ก่อความเสียหายไม่ให้ลงมาถึงพื้นโลก เมื่อโอโซนเช่นเดียวกันอยู่ที่ระดับพื้นดินจะกลายเป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจที่รุนแรง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม EPA (สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ) ถึงกล่าวว่า “แย่เมื่ออยู่ใกล้” เหตุผลที่เป็นอันตรายมากในอากาศที่เราสูดหายใจเพราะว่าโอโซนเป็นสารที่ทำให้เกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนที่รุนแรง โอโซนสามารถสร้างความเสียหายให้กับเยื่อเมือกและเนื้อเยื่อในทางเดินหายใจของมนุษย์ สัตว์ และพืชได้เมื่อความเข้มข้นสูงกว่า 50 ppb

ไปยังแหล่งกำเนิดของโอโซนในระดับพื้นดิน

แหล่งกำเนิดของโอโซนในระดับพื้นดินหลักภายในอาคารคือผ่านอากาศที่ถูกนำเข้าสู่ภายในจากภายนอกอาคาร สาเหตุหลักคือไอเสียจากรถยนต์ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมในวันที่มีโอโซนภายนอกอาคารสูง เช่น ในช่วงฤดูร้อน ส่งผลให้ระดับโอโซนภายในอาคารสูงขึ้น ความเข้มข้นของโอโซนอาจต่ำกว่าภายในอาคารเมื่อเทียบกับภายนอกอาคาร แต่เรายังคงใช้เวลาภายในอาคารมากกว่า ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้แต่ในปริมาณน้อยก็สามารถมีแนวโน้มในการส่งผลกระทบด้านลบได้

นอกเหนือจากการมาจากภายนอกอาคาร โอโซนยังสามารถถูกปล่อยออกสู่อากาศจากอุปกรณ์เครื่องใช้บางอย่างในบ้านและสำนักงาน เช่น เครื่องเป่าผม เครื่องผสมอาหาร เครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายสำเนาแบบเลเซอร์ กระบวนการอุตสาหกรรมบางอย่าง เช่น การบำบัดน้ำขวดด้วยโอโซน และจากเครื่องกรองอากาศบางประเภท

นอกจากนี้ โอโซนยังสามารถถูกสร้างได้จากภายในบ้านหรือสำนักงานของคุณโดยเครื่องฟอกอากาศในห้องภายในที่อยู่อาศัย บางบริษัทกล่าวเสนอด้วยว่าโอโซนที่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสร้างจะช่วยสลายสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย อ้างอิงจากการศึกษาวิจัยโดย EPA (สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ) ในปี 2009 การทำปฏิกิริยาระหว่างโอโซนและ สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) สามารถสร้าง VOC อื่น ๆ อย่างสารฟอร์มาลดีไฮด์และอัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นพิษมากกว่า VOC เดิมในห้องได้ ยิ่งกว่านั้น พวกเขาค้นพบว่าโอโซนไม่ได้ขจัดอนุภาค เช่น ฝุ่นหรือละอองเกสรดอกไม้จากอากาศ ในขณะที่เครื่องกำเนิดโอโซนอาจมีประสิทธิภาพในการขจัดหรือสลายสารประกอบที่สร้างกลิ่นต่าง ๆ แต่เครื่องกำเนิดเหล่านี้ไม่ควรถูกนำมาใช้ในขณะที่มีคนหรือสัตว์อยู่ในห้อง ข่าวดีก็คือ “ไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศทั้งหมดที่ทำให้เกิดโอโซน”

เรียนรู้ว่าโอโซนที่ระดับพื้นดินกระทบต่อสุขภาพของคุณอย่างไร

แม้แต่โอโซนปริมาณน้อยก็สามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้ สัญญาณเบื้องต้นของการสัมผัสกับโอโซน รวมถึงสิ่งต่าง ๆ อย่าง การระคายเคืองตา ปากแห้ง การไอ อาการบวม หายใจหวีด หายใจขัด และอาการเจ็บหน้าอกในคนที่มีสุขภาพแข็งแรง หากคุณมีสภาวะที่มีอยู่แล้ว เช่น โรคหอบหืดโรคหลอดลมอักเสบ โรคหัวใจ หรือภาวะพองลมในเนื้อเยื่อ คุณอาจคาดได้ว่าอาการของคุณจะแย่ลงเมื่อสัมผัสกับโอโซน

ทารกและเด็กมีน้ำหนักตัวน้อยกว่า แต่กลับสูดหายใจเอาอากาศในปริมาตรที่มากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเข้าทางปากของพวกเขา นอกจากนี้ เด็กยังสูดหายใจด้วยอากาศที่อยู่ต่ำกว่าใกล้พื้น ใกล้แหล่งกำเนิดของโอโซนที่ถูกสร้างโดยเครื่องฟอกอากาศมากกว่า

บางการศึกษาแนะนำว่าโอโซนสามารถช่วยลดความเข้มข้นของเชื้อโรคในอากาศได้จริง และหยุดการเจริญเติบโตของไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้ ปัญหาก็คือเพื่อขจัดสิ่งปนเปื้อนอย่างแท้จริง ระดับของโอโซนในอากาศจะต้องสูงเป็น 5-10 เท่าของระดับที่ถือว่าปลอดภัยสำหรับการหายใจ

ข่าวดีก็คือคุณสามารถฟื้นตัวจากการสัมผัสระยะสั้นกับระดับของโอโซนที่ต่ำได้ ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่รุนแรงกว่าและส่งผลเป็นเวลานาน เช่น โรคปอด จะเกิดขึ้นเมื่อคุณสูดหายใจด้วยระดับของโอโซนที่สูงหรือแม้แต่ระดับของโอโซนที่ต่ำเป็นระยะเวลานาน

ผลของโอโซนที่ระดับพื้นดิน:

หากมีโอโซนอยู่ในบ้าน โรงเรียน หรือที่ทำงาน คุณอาจเผชิญกับผลกระทบที่เป็นอันตรายมากหรือน้อยโดยขึ้นกับ:

• ระบบระบายอากาศของอาคารของคุณ ยิ่งฉนวนแน่นหนาเท่าไร การสะสมของโอโซนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
• อุปกรณ์ที่ผลิตโอโซนได้รับการติดตั้ง บำรุงรักษา ระบายอากาศ และทำงานอย่างไร
• ปริมาณของโอโซนทั้งหมดที่มีในอากาศภายในอาคารของคุณ
• สถานะปัจจุบันและประวัติทางสุขภาพของคุณ
• ระดับการทำกิจกรรมของคุณ การสูดหายใจลึกและรวดเร็วในขณะที่ออกกำลังกายอาจเพิ่มปริมาณของโอโซนที่เข้าสู่ร่างกาย
• ระยะเวลาที่คุณสัมผัสกับโอโซนภายในอาคาร

วิธีการลดความเสี่ยงของคุณในการสัมผัสกับโอโซนภายในอาคาร

มีหลายขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อลดหรือขจัดความเสี่ยงจากโอโซนได้

• เลือก HEPA (High Efficiency Particulate Air) เครื่องฟอกอากาศและเครื่องดูดฝุ่นที่ได้รับการรับรอง ARB ที่ไม่สร้างโอโซน
• เพิ่มการระบายอากาศโดยการเปิดหน้าต่าง (เว้นแต่ระดับโอโซนภายนอกอาคารสูง)
• ติดตั้งพัดลมระบายอากาศสำหรับอุปกรณ์ (เครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ) ที่สามารถสร้างโอโซนได้ อย่าตั้งอุปกรณ์ที่สามารถสร้างโอโซนได้ในพื้นที่ปิดขนาดเล็ก
• บำรุงรักษาอุปกรณ์สำนักงานหรืออุตสาหกรรมและระบบการจัดการอากาศอย่างเหมาะสมเสมอ
• ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและวัสดุก่อสร้างที่ไม่มี VOC ในปริมาณสูง

ควบคุมระดับโอโซนภายในอาคารให้ปลอดภัย

หน่วยงานรัฐบางหน่วยงานได้จัดตั้งมาตรฐานเพื่อช่วยจำกัดการสัมผัสกับโอโซนภายในอาคาร แม้ว่ามาตรฐานเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นสำหรับสำนักงานและอากาศภายนอกอาคาร มาตรฐานเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับอากาศภายในอาคารที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน มาตรฐานรวมถึงรายการต่อไปนี้:

พร้อมจะสร้างความแตกต่างหรือไม่

ด้วยการเลือกเครื่องฟอกอากาศ Blueair คุณจะไม่เพิ่มระดับโอโซน การทดสอบยังคงแสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าความเข้มข้นของโอโซนในอากาศที่ปล่อยออกจากระบบของเราต่ำกว่าในอากาศขาเข้า ทั้งหมดเพื่อให้คุณและครอบครัวของคุณสามารถหายใจได้ง่ายขึ้น

ไม่พอใจเกี่ยวกับระดับโอโซนที่พื้นดินในพื้นที่ของคุณใช่หรือไม่ ให้ความคิดเห็นของคุณถูกรับฟังโดยการติดต่อตัวแทนในพื้นที่ของคุณ:
www.house.gov/representatives/find/
www.senated.gov/reference/commom/faq/How_to_contact_senators.htm

นอกจากนั้น คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ EPA (สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ) เพื่อดูข้อกฎหมายในปัจจุบัน http://www.epa.gov/groundlevelozone/actions.html เพื่อให้ EPA (สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ) รู้ว่าการลดระดับโอโซนที่เป็นอันตรายมีความสำคัญต่อคุณ