ขั้นแรก ที่เราต้องรู้ สัดส่วน ของส่วนผสมนะคะ
3:1:1:10
3 ส่วน เป็นปลา
1 ส่วน เป็น น้ำตาล
1 ส่วน เป็น พด.2
10 ส่วน เป็น น้ำ
เขียนแบบละเอียด เพราะ มีเพื่อนๆ หลายท่าน บอกว่า ยังไม่เคยทำมาก่อน ยังสับสน และไม่เข้าใจ
ตามมาดู ส่วนผสม ของแก้วนะคะ วันนี้ มีวัตถุดิบ พอทำได้ 2 เท่าของสัดส่วนส่วน
1. หัวปลา 2 เท่าของสูตร ( 6กิโลกรัม)
หัวปลา และ ไส้ปลา ขอมาฟรีค่ะ จากตลาด
2. น้ำตาลทราย 2 เท่าของสูตร ( 2 กิโลกรัม )
3 สาร พด.2 ใช้ซองเดียว ทำได้ เลย เหลือเฟือค่ะ
4. น้ำ 2 เท่าของสูตร ก็ประมาณ 20 ลิตร
ขอบอกก่อนว่า สัดส่วน ที่ว่ามานี้ ไม่จำเป็น ต้องเคร่งครัดมากนัก ก็ได้ค่ะ แต่เรื่องน้ำตาล ต้องมากพอ ไม่เช่นนั้น บูดเน่า ส่งกลิ่นเหม็น
มาเริ่มทำ ปุ๋ยน้ำหมักกัน ขอบอกว่า ใช้เวลาทำ เพียง 10 นาทีเอง ง่ายมากๆ เขียนบล็อกนี้ ใช้เวลาเยอะกว่าอีก
วิธีทำ
ขั้นที่1 ละลายน้ำตาล ลงในน้ำ สัก 10 ลิตรค่ะ ไม่ใช้น้ำประปาจากก๊อก แก้วใช้น้ำที่ขังไว้แล้ว
คนๆ กวนๆ เรื่องกวนๆ ถนัดมาก เอิ๊กๆๆๆ
ละลายแล้ว เทหัวปลา ลงไปเลย
ลอยเท้งเต้ง ดูเป็นภาพ ที่อนาถ นิดหน่อย
ขั้นที่ 2 เตรียมพด.
เอาพด. มาละลายน้ำเปล่า เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้ สัก 5 นาที
ขั้นที่3 เอาสารละลาย พด.ที่เรียบร้อยแล้ว เทลงถัง ที่เตรียมปลา ใส่น้ำเชื่อมไว้แล้ว เป็นอันเสร็จค่ะ
ง่ายมั๊ย ง่ายมากๆ
แต่จะให้ดี เพิ่มสับประรดสักหน่อย จะช่วยลดกลิ่นปลาหมัก แก้วเติมสับประรด ลงไป อีก 2 กิโลกรัมค่ะ โดยประมาณ
สับประรด ที่สุกเกินไป ขอฟรี จากตลาด เช่นกัน นำมาหั่นๆ แล้วใส่ลงเลย
ได้เป็นส่วนผสม หน้าตา แบบนี้
เติมน้ำที่เหลือ แล้ว คนๆ กวนๆ ให้เข้ากัน แล้วปิดฝา ไม่ต้องล็อค
ทิ้งไว้ในที่ร่ม ไม่โดนแดด รอสัก 2-3 สัปดาห์ ก็ได้ ปุ๋ยหมักปลา ไว้ใช้แล้ว ระหว่างนี้ แอบเปิดดู และคนๆ มันบ้าง
แก้วเริ่มทำ วันที่4 กค. วันนี้ มีคนจองคิว ขอซื้อแล้ว ลิตรละ 30บาท
ที่จริืงทำเองนั้น ง่ายมาก และ ต้นทุนก็น้อยด้วย มีแค่ค่าน้ำตาล อย่างเดียวเอง