ไนโตรเฟน
(nitrofen)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช diphenyl ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกและภายหลังงอกในธัญพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) ประมาณ 3,000 มก./กก. ทางผิวหนัง (กระต่าย) มากกว่า 2,000 มก./กก. อาจทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้างประเภทล้มลุกและหญ้าต่าง ๆ
พืชที่ใช้ ธัญพืช ข้าว ผัก ไม้ดอกและไม้ประดับ
สูตรผสม 8% จี และ 25% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – พืชที่อ่อนแอต่อสารกำจัดวัชพืชนี้ คือ ผักกาดหอม มะเขือเทศ ผักโขม มะเขือ และพริกไทย
– เป็นพิษต่อปลา
– ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
อ๊อกซาไดอะโซน
(oxadiazon)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช oxadiazon ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชได้ทั้งแบบก่อนงอกและภายหลังงอก ดูดซึมเข้าไปในลำต้นได้โดยส่วนต่าง ๆ ของพืชที่อยู่เหนือพื้นดิน ออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อมีแสงแดด
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 8,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 8,000 มก./กก. อาจทำให้ดวงตาเกิดอาการระคายเคือง
วัชพืชที่กำจัดได้ ผักแว่น ผักปอดนา แพงพวยน้ำ ขาเขียด หญ้านกสีชมพู หญ้าตีนติด หญ้าตีนกา หญ้าโขย่ง กกขนาก กกทราย วัชพืชใบแคบและวัชพืชใบกว้างล้มลุกอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ฝ้าย ข้าว ถั่วเหลือง กะหล่ำปลี กระเทียม หอมและมะเขือเทศ
สูตรผสม 25% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ สำหรับกำจัดวัชพืชในนาข้าว ใช้อัตรา 320-640 ซีซี ผสมกับน้ำ 20-60 ลิตร/ไร่ ฉีดพ่นลงในนาข้าวให้ทั่วแปลง สำหรับพืชอื่น ๆ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
อาการเกิดพิษ ถ้าเข้าตา จมูกหรือผิวหนัง จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ถ้าเข้าปากอาจจะมีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
การแก้พิษ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ 1% ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่จำนวนมาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไปและผู้ป่วยมีสติดีอยู่ ห้ามทำให้อาเจียน ใช้น้ำล้างปากมาก ๆ แล้วนำผู้ป่วยส่งแพทย์ เพื่อทำการล้างท้อง แล้วรักษาตามอาการ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ
ข้อควรรู้ – กำจัดวัชพืชใบกว้างได้ดีกว่าใบแคบ
– มีความคงตัวในดินปานกลาง จึงสามารถควบคุมวัชพืชได้ตลอดฤดูปลูก
– ออกฤทธิ์ในทางสัมผัส เมื่อใช้กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอก
อ๊อกซี่ฟลูออร์เฟน
(oxyfluorfen)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช diphenyl ether : trifluoromethyl ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชได้ทั้งแบบก่อนงอกและภายหลังงอก ออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อถูกแสงแดด ดูดซึมผ่านทางใบหรือทางหน่อได้มากกว่าทางราก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 5,000 มก./กก. ทางผิวหนัง (กระต่าย) มากกว่า 10,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ หญ้าตีนติด หญ้าตีนนก หญ้าตีนกา หญ้าปากควาย หญ้าไม้กวาด หญ้าเขมร ไมยราบ วัชพืชใบแคบและใบกว้างล้มลุกอื่น ๆ
พืชที่ใช้ หอม หอมใหญ่ กระเทียม พืชตระกูลถั่ว ข้าวไร่ พืชตระกูลกะหล่ำ พริก ยาสูบ มะเขือเทศ ขิง มันสำปะหลังและอ้อย
สูตรผสม 23.5% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ โดยทั่วไปใช้อัตรา 40-80 ซีซี ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นคลุมดินที่เตรียมไว้เพื่อปลูก ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากฉลากก่อนใช้
อาการเกิดพิษ ผู้ได้รับพิษจะมีอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง ตา ทางเดินหายใจ คลื่นไส้ วิงเวียน และอาเจียน
การแก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่มาก ๆ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ถ้าเข้าปากห้ามทำให้คนไข้อาเจียน ควรนำคนไข้ส่งแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– กำจัดวัชพืชใบกว้างได้ดีกว่าใบแคบ
– เมื่อวัชพืชสัมผัสถูกกับสารกำจัดวัชพืชนี้ในระหว่างการงอกจะถูกฆ่าตาย
โอรีซาลิน
(oryzalin)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช dinitroanilide ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 10,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบและใบกว้างประเภทล้มลุก
พืชที่ใช้ ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ฝ้าย มันฝรั่งและพื้นที่ ๆ ไม่ได้ทำการเพาะปลูก
สูตรผสม 70% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– อย่าใช้กับดินที่มีอินทรียวัตถุสูงกว่า 5%
– ให้ใช้เพียงหนึ่งครั้งต่อหนึ่งฤดูปลูก
– อย่าปลูกพืชหัวในพื้นที่ที่ใช้สารนี้ภายในระยะเวลา 12 เดือน หลังจากใช้
พาราคว๊อท
(paraquat)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช bipyridium ประเภทไม่เจาะจงพืช กำจัดวัชพืชภายหลังงอก ออกฤทธิ์ในทางสัมผัส มีคุณสมบัติเป็นตัวดูดน้ำและหมดฤทธิ์อย่างรวดเร็วเมื่อถูกกับดิน
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 150 มก./กก. ทางผิวหนัง 236 มก./กก. จะตายเมื่อกลืนกินเข้าไป
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชทุกชนิด โดยเฉพาะจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดส่วนที่มีสีเขียวของพืช
พืชที่ใช้ ใช้กำจัดวัชพืชตามไร่มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด สวนผลไม้ กล้วย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ตามคันนา บริเวณโรงงาน ริมทางรถไฟและคันคูคลอง
สูตรผสม 27.6% แอล
อัตราใช้และวิธีใช้ โดยทั่วไปใช้อัตรา 60-80 ซีซี ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบและต้นวัชพืชโดยตรงควรใช้ในขณะที่มีแสงแดดซึ่งจะช่วยให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
อาการเกิดพิษ พิษจากการสูดดมจะมีอาการแน่นหน้าอกและในช่องท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย วิงเวียน หายใจขัด ปอดบวมและอาจตายเนื่องจากระบบหายใจล้มเหลว ถ้าเข้าตาหรือถูกผิวหนังจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและอักเสบ ถ้าวัตถุมีพิษเข้มข้นมาก ๆ อาจทำให้เล็บหลุด ถ้าเข้าตา แก้วตาจะหลุดออกมาทำให้เกิดอาการรุนแรงตามมา ถ้าเข้าปากหรือกลืนกินเข้าไป ภายในปากจะระคายเคืองตลอดถึงลำคอ ทางเดินอาหารอักเสบและแสบร้อนคลื่นไส้ อาเจียน ท้องปั่นป่วน ไม่สบายและท้องเสีย เหงื่อออกมาก ประสาทส่วนกลางได้รับผลกระทบกระเทือน มีอาการกระสับกระส่าย ระบบหายใจล้มเหลว เซลตับและไตถูกทำลายและตายในที่สุด
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่มาก ๆ ถ้าเข้าตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ ถ้าเข้าปากหรือกลืนกินเข้าไป ควรรีบทำให้อาเจียนทันทีด้วยการล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น แล้วนำส่งแพทย์ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – จะหมดฤทธิ์ทันทีเมื่อถูกกับดิน ไม่มีฤทธิ์ตกค้าง
– มีพิษต่อปลาน้อย
พีบูเลท
(pebulate)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช thiocarbamate ประเภทเจาะจงพืช ใช้กำจัดวัชพืชก่อนปลูกหรือภายหลังงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 921-1,900 มก./กก. ทางผิวหนัง (กระต่าย) มากกว่า 4,640 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้างและวัชพืชใบแคบพวกหญ้าต่าง ๆ
พืชที่ใช้ มะเขือเทศ ยาสูบ
สูตรผสม อยู่ในรูปน้ำมันผสมน้ำ (อีซี) และ 10% จี
อัตราใช้และวิธีใช้ ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก
ข้อควรรู้ – เป็นสารกำจัดวัชพืชที่มีความใกล้เคียงกับอีพีทีซี
– ให้ผลในการกำจัดหญ้าเป็นส่วนใหญ่
– วัชพืชใบกว้างจะถูกฆ่า ถ้าสภาพการใช้เหมาะสมแก่การงอกของเมล็ด
– ไม่มีฤทธิ์ในทางสัมผัส ฤทธิ์อยู่ได้นานประมาณ 6-8 สัปดาห์
เพ็นดิเม็ทธาลิน
(pendimethalin)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช dinitroanilide ประเภทเจาะจงพืช ใช้ก่อนปลูกเพื่อกำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกหรือเริ่มงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,250 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 5,000 มก./กก. (กระต่าย) (Techn.)
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบพวกหญ้าล้มลุกและวัชพืชใบกว้างล้มลุกบางชนิด
พืชที่ใช้ ฝ้าย ถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าว ถั่วลันเตา ถั่วเขียว มันฝรั่ง และพืชอื่น ๆ อีกหลายชนิด
สูตรผสม 31.7% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก โดยใช้ก่อนปลูกหรือก่อนวัชพืชงอก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ ถ้ากลืนกินเข้าไปห้ามทำให้อาเจียน รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– ข้าวโพดจะเป็นอันตรายถ้าใช้แบบก่อนปลูก
– อาจผสมใช้ร่วมกับสารกำจัดวัชพืชอย่างอื่นได้
ฟีโนไธโอล
(phenothiol)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช phenoxy ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 790 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้าง
พืชที่ใช้ ข้าวและธัญพืช
สูตรผสม 20% อีซี และ 1.4% จี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก สำหรับข้าวให้ใช้ภายหลังตกกล้า 7-10 สัปดาห์ หรือเมื่อข้าวแตกกอเต็มที่และสูงเหนือน้ำ 15-20 ซม.
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
พิโคลแรม
(picloram)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช pyridine ประเภทเจาะจงพืช ออกฤทธิ์ในทางดูดซึม โดยผ่านทางรากและใบได้อย่างรวดเร็ว
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 8,200 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 4,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้างประเภทล้มลุกและยืนต้น
พืชที่ใช้ ใช้กำจัดวัชพืชในพื้นที่ที่ไม่ได้ทำการเกษตรและทุ่งหญ้า
สูตรผสม 24% เอสแอล และ 34.7% เอสแอล
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก
ข้อควรรู้ – อย่าใช้เครื่องมือฉีดพ่นสารนี้ไปใช้ฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชอย่างอื่น
– สารตกค้างออกฤทธิ์กำจัดวัชพืชอยู่ในดินได้เป็นเวลานานมาก
– ฤทธิ์ในการกำจัดวัชพืชเป็นผลมาจากการดูดซึมผ่านทางใบ และดูดซับทางราก
ฟิเปอร์โรฟอส
(piperophos)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช piperidine ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกและภายหลังงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 324 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,150 มก./กก. (หนู)
วัชพืชที่กำจัดได้ หญ้านกสีชมพู หญ้าดอกขาว หญ้าหนวดแมว กกชนิดต่าง ๆ และวัชพืชใบแคบอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ข้าวนาดำ
สูตรผสม นิยมใช้ผสมร่วมกับไดเม็ทธามีทริน เพื่อกำจัดวัชพืชใบกว้าง วัชพืชตระกูลหญ้า และกกต่าง ๆ ในนาข้าว
พรีติลาคลอร์
(pretilachlor)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช acetanilide ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 6,100 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 3,100 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้าง กกต่าง ๆ และหญ้าทรงกระเทียม
พืชที่ใช้ ข้าวนาดำ
สูตรผสม 30% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
อาการเกิดพิษ ทำให้ผิวหนังระคายเคืองปานกลางและทำให้ดวงตาระคายเคืองเล็กน้อย
โปรพาคลอร์
(propachlor)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช anilide ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 710 มก./กก. ทำให้ดวงตาระคายเคืองปานกลาง
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบและใบกว้างประเภทล้มลุก
พืชที่ใช้ ข้าวโพด ฝ้าย ถั่วลันเตา ฟักทอง ข้าวฟ่างและถั่วเหลือง
สูตรผสม 20% จี และ 65% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก หรือด้วยการฉีดพ่นหน้าดินปลูกก่อนวัชพืชและพืชที่ปลูกจะงอก น้ำฝนจะช่วยเร่งให้สารเคมีออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น
ข้อควรรู้ – ถ้ามีฝนไม่เพียงพอหรือไม่มีฝนภายหลังฉีดพ่นแล้ว จะทำให้ผลในการควบคุมวัชพืชน้อยลง
– เป็นพิษต่อปลา
– อาจใช้ผสมร่วมกับปุ๋ยน้ำและสารกำจัดวัชพืชอย่างอื่นได้
โปรพานิล
(propanil)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช acetamide ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอกโดยทางสัมผัสในช่วงระยะเวลาอันสั้น
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 1,385 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 7,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าหนวดปลาดุก กกขนาก หญ้าทรงกระเทียม ผักแว่น วัชพืชใบแคบและใบกว้างอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ข้าว มันฝรั่ง ข้าวสาลี
สูตรผสม 36% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ โดยทั่วไปใช้อัตรา 1.5-2 ลิตร ผสมกับน้ำ 80 ลิตร ฉีดพ่นให้คลุมพื้นที่ 1 ไร่ โดยใช้ในช่วงระยะที่พืชงอกแล้วและมีใบ 2-4 ใบ
อาการเกิดพิษ เมื่อถูกผิวหนังจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ถ้าสูดดมเข้าไปมาก ๆ จะทำให้หายใจไม่ออก ถ้ากลืนกินเข้าไป จะร้อนภายในปาก ลำคอ กระเพาะ ไอ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ วิงเวียน ง่วงและหมดสติ
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่ทันที ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดมาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไป ทำให้คนไข้อาเจียนทันที จนเหลือแต่น้ำหรือของเหลวใส แล้วรักษาตามอาการ ห้ามให้อาหารประเภทที่มีไขมัน น้ำมัน แอลกอฮอล์ กับคนไข้
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– ละอองโปรพานิลจะทำความเสียหายให้กับฝ้าย ข้าวโพด มะเขือเทศ ถั่วเหลือง ทานตะวัน ผักต่าง ๆ แตงกวา พืชพวกถั่วและใบพืชกว้างอื่น ๆ
– อย่าใช้ในช่วงที่มีอากาศร้อนหรือเย็นจัด
– อย่าใช้ถ้าคาดหมายว่าจะมีฝนตกภายใน 5-6 ชั่วโมง
– อย่าใช้สารคาร์บาริลหรือสารกำจัดแมลงพวกฟอสเฟทอื่น ๆ กับพืชที่ถูกฉีดพ่นด้วยโปรพานิลแล้ว ภายใน 14 วัน
– อย่าใช้ผสมกับปุ๋ยน้ำ
– ไม่มีฤทธิ์ตกค้าง
– ความรวดเร็วในการฆ่าวัชพืชจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น
โปรปาควิซาฟอพ
(propaquizafop)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืชภายหลังงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชประเภทใบแคบพวกหญ้า ได้แก่ หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู หญ้าตีนกา หญ้าตีนนก หญ้าดอกขาว
พืชที่ใช้ ใช้กำจัดวัชพืชในแปลงถั่วเหลือง
สูตรผสม 10% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตรา 20-30 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงถั่วเหลืองในพื้นที่ 1 งาน พ่นเมื่อถั่วเหลืองอายุอยู่ในช่วง 14-21 วัน หลังปลูกและวัชพืชมีใบไม่เกิน 2-3 ใบ
อาการเกิดพิษ ยังไม่ทราบอาการเกิดพิษที่เกิดกับคน
การแก้พิษ รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่มีการใช้ ให้พักผ่อนในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี หากเกิดอาการที่ผิวหนัง ให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำจำนวนมาก ๆ หากเข้าตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำ และรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที หากกลืนกินเข้าไปให้ดื่มสารละลายถ่าน ultra carbon ถ้าผู้ป่วยหมดสติ ห้ามให้ยาทางปาก รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
ไพริเดท
(pyridate)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช pyridazine ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอก โดยทางสัมผัสดูดซึมได้ทางใบ
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก ประมาณ 2,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 3,400 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้างและหญ้าบางชนิด (โดยเฉพาะที่มีความต้านทานต่อสารอะทราซีน)
พืชที่ใช้ ข้าวโพด ข้าว ธัญพืชและถั่วลิสง
สูตรผสม 5% อีซี และ 50% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก โดยใช้กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอก ในขณะที่วัชพืชอยู่ในระยะที่มีใบไม่เกิน 4 ใบ
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ออกฤทธิ์ช้า
– ฝนตกภายหลังใช้ จะไม่ทำให้ระดับการควบคุมวัชพืชลดลง
– ไม่เป็นอันตรายต่อพืชที่จะปลูกตามมาภายหลัง
ควินซาโลฟอพ-เอ็ทธิล
(quinzalofop-ethyl)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช quinoxaline : phenoxy ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอก ออกฤทธิ์ในทางดูดซึม
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,670 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 10,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบล้มลุกและยืนต้น
พืชที่ใช้ พืชใบกว้าง เช่น ทานตะวัน ถั่วเหลือง ฝ้าย และพืชผักอื่น ๆ
สูตรผสม 10% อีซี
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ควินซาโลฟอพ-พี-เทฟูริล
(quinzalofop-p-tefuryl)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืชชนิดเลือกทำลายเฉพาะวัชพืชใบแคบที่งอกจากเมล็ด และใช้กำจัดวัชพืชภายหลังงอก
พืชที่กำจัดได้ หญ้านกสีชมพู หญ้าข้าวนก หญ้าปากควาย หญ้าลูกเห็บ หญ้าแพรก หญ้ารังนก หญ้าขจรจบ และพืชตระกูลหญ้าอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ถั่วเหลือง ถั่วทุกชนิด ฝ้าย และมันสำปะหลัง
สูตรผสม 6% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตรา 40-60 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ผสมให้เข้ากันดีแล้วฉีดพ่นให้ทั่วพื้นที่ 1 งาน หรือจะใช้ 160-240 ซีซี ผสมน้ำ 80 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วพื้นที่ 1 ไร่ เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรฉีดพ่นวัชพืชที่งอกใบแล้ว 3-6 ใบ หรือมีขนาดสูงประมาณ 15 ซม.
อาการเกิดพิษ อาจทำให้ผิวหนัง ดวงตา เกิดอาการระคายเคืองได้
การแก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่มาก ๆ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดนาน ๆ ถ้าเข้าปากให้รีบทำให้อาเจียน แล้วนำผู้ป่วยส่งแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ
เซ็ทท๊อกซี่ดิม
(sethoxydim)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช cyclohexene ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอก ออกฤทธิ์ในทางดูดซึมโดยผ่านทางใบ
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 3,500 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 5,000 มก./กก. ทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบล้มลุกและยืนต้น
พืชที่ใช้ ถั่วเหลือง ฝ้าย ถั่วเขียว ถั่วลิสง ยาสูบ มะเขือเทศ มันฝรั่ง แตงกวา ฟักทอง หอม กระเทียม แอสพารากัส ผักต่าง ๆ และพืชใบกว้างอื่น ๆ
สูตรผสม 12.5% อีซี และ 20% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ฉีดพ่นกำจัดวัชพืชภายหลังงอก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ไม่กำจัดวัชพืชใบกว้าง กกและหญ้าทรงกระเทียม
– อย่าใช้ ถ้าคาดว่าจะมีฝนตกภายใน 1 ชั่วโมง
– มีความคงตัวในดินสั้นมาก
– อาจผสมใช้ร่วมกับบาซาเกรนได้
ซิมาซีน
(simazine)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช triazine ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก ออกฤทธิ์ในทางดูดซึม
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 5,000 มก./กก. ทางผิวหนัง (กระต่าย) มากกว่า 3,100 มก./กก. อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคืองเล็กน้อย
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบหรือหญ้าล้มลุกเกือบทุกชนิด และวัชพืชใบกว้างบางอย่าง
พืชที่ใช้ แอสพารากัส กล้วย สตรอเบอร์รี่ ส้ม ข้าวโพด องุ่น สัปปะรด อ้อย
สูตรผสม 50% และ 80% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก โดยใข้กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เมื่อจะใช้กำจัดวัชพืชในสวนองุ่น องุ่นจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี
– พืชที่อ่อนแอต่อสารนี้ คือ มะเขือเทศ ยาสูบ ผักโขม พืชตระกูลแตง หอม แครอท ข้าว ถั่วเหลืองและผักกาดหอม
– มีฤทธิ์ตกค้างนานจึงห้ามปลูกพืชอื่นที่มิได้แนะนำในพื้นที่ที่ใช้สารนี้ในฤดูเดียวกัน
– ไม่ได้ป้องกันการงอกแต่จะทำลายต้นกล้าภายหลังจากเข้าไปในรากแล้ว
– ฝนจะช่วยเร่งให้สารนี้ออกฤทธิ์ได้เร็วและได้ผลมากขึ้น
โซเดียม อาร์ซีไนท์
(sodium arsenite)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช inorganic ประเภทไม่เจาะจงพืช ดูดซึมเข้าไปในต้นได้ โดยผ่านทางรากและใบ เข้าไปทำลายการงอกของเมล็ดและยับยั้งการเจริญเติบโตของพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,200 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ พืชทุกชนิด
พืชที่ใช้ กำจัดวัชพืชในสวนยางพาราและตามพื้นที่ที่ไม่มีการเพาะปลูก
สูตรผสม 99% ผง
ข้อควรรู้ ปัจจุบันทางราชการไม่อนุญาตให้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ
เทอร์บาซิล
(terbacil)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช uracil ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 5,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบพวกหญ้าล้มลุกส่วนมากและวัชพืชใบกว้างบางชนิด
พืชที่ใช้ แอสพารากัส สตรอเบอร์รี่ อ้อยและส้ม
สูตรผสม 80% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก โดยใช้กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก หรือในช่วงระหว่าง ระยะที่วัชพืชกำลังจะงอกเป็นต้นกล้า
ข้อควรรู้ – ห้ามใช้กับดินทรายหรือดินที่มีอินทรีย์วัตถุต่ำกว่า 1%
– ห้ามปลูกพืชที่มิได้แนะนำในพื้นที่ที่ใช้สารนี้แล้วอย่างน้อย 2 ปี
เทอร์บูทริน
(terbutryn)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช triazine ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก และภายหลังงอกกับพืชบางชนิด
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 2,500 มก./กก. อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคืองเล็กน้อย
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้างประเภทล้มลุก
พืชที่ใช้ ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ ข้าวโอ๊ต ธัญพืช อ้อย มันฝรั่ง ทานตะวัน ข้าวโพด และกำจัดวัชพืชตามพื้นที่ที่ไม่ได้ทำการเพาะปลูก
สูตรผสม 50% และ 80% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก โดยการฉีดพ่นทับหน้าดินภายหลังจากปลูกพืชแล้วไม่ว่าจะหลังหรือก่อนเมล็ดงอกก็ได้ สำหรับการใช้กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอกถ้าเป็นข้าวสาลี ให้ใช้ในระยะที่มีใบแล้ว 3 ใบ หรือมีหน่อ 1-2 หน่อ และวัชพืชไม่ควรสูงเกิน 4 นิ้ว
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– อย่าใช้กับข้าวฟ่างที่งอกแล้ว
– ดูดซึมได้ทั้งทางใบและทางราก
– ผสมใช้ร่วมกับปุ๋ยน้ำได้
ไธโอเบ็นคาร์บ
(thiobencarb)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช carbamate ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกและภายหลังงอกในระยะแรก ๆ
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,300 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ หญ้าข้าวนก หญ้าไม้กวาด กกขนาก ผักปอดนา สาหร่ายไฟ วัชพืชใบแคบและใบกว้างอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ข้าว (ทั้งนาดำและนาหว่าน)
สูตรผสม 8% จี และ 50% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ชนิด 8% จี ใช้อัตรา 4 กก./ไร่ โดยหว่านให้ทั่วแปลงนา ชนิด 50% อีซี ใช้อัตรา 320-640 ซีซี ผสมกับน้ำ 60 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงนาหลังจากปักดำหรือหว่าน เมื่อข้าวงอกแล้ว 1-5 วัน
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – คงฤทธิ์อยู่ในดินได้นาน 30-40 วัน
– เป็นพิษต่อปลาค่อนข้างน้อย
– อาจผสมใช้ร่วมกับสารกำจัดศัตรูพืชอย่างอื่นได้
ไตรโคลเพอร์
(triclopyr)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช pyridine : organochlorine ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอก ออกฤทธิ์ในทางดูดซึม
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 710 มก./กก. (หนู) ทางผิวหนัง มากกว่า 2,000 มก./กก. ทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง
วัชพืชที่กำจัดได้ สาบแร้งสาบกา สาบเสือ หญ้าละออง ลูกใต้ใบ หญ้าลูกเห็บ ต้นขี้ไก่ย่าน วัชพืชใบกว้างและพืชไม้ต่าง ๆ
พืชที่ใช้ ใช้กำจัดวัชพืชในสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน พื้นที่ไม่ได้ทำการเกษตร
สูตรผสม 34.7% อีซี และ 6.8% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตรา 120-150 ซีซี ผสมน้ำ 40-60 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วพื้นที่ 1 ไร่
การแก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนัง ให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่จำนวนมาก ๆ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ถ้าเข้าปากหรือกลืนกินเข้าไป ห้ามทำให้คนไข้อาเจียน ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – อย่าใช้กำจัดวัชพืชตามคู-คลองส่งน้ำ
– ดูดซึมได้ทั้งทางใบและราก เคลื่อนย้ายได้ทั่วต้นพืช
– สลายตัวในดินได้อย่างรวดเร็ว
ไตรดิแฟน
(tridiphane)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช organophosphate ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบภายหลังงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 2,000 มก./กก. อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบพวกหญ้าและวัชพืชใบกว้างล้มลุก
พืชที่ใช้ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง (อยู่ในระหว่างการทดลองใช้)
สูตรผสม 4% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก กำจัดวัชพืชในระยะเริ่มงอก ถ้าเป็นหญ้าควรมีความสูงตั้งแต่ 0.5-2 นิ้ว หรือใช้กำจัดวัชพืชภายหลังงอกแล้ว ซึ่งมีความสูงตั้งแต่ 2-4 นิ้ว
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– มีความคงตัวอยู่ในดินได้นานประมาณ 28 วัน
ไตรฟลูราลิน
(trifluralin)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช dinitroanilide ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอก ออกฤทธิ์ด้วยการฆ่าเมล็ดในขณะที่กำลังงอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 10,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบแคบพวกหญ้าและวัชพืชใบกว้างล้มลุก
พืชที่ใช้ ฝ้าย ถั่วเหลืองและถั่วอื่น ๆ ข้าวโพด ข้าวฟ่างและผักต่าง ๆ
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ด้วยการคลุกดินให้ลึก 2-4 นิ้ว ก่อนปลูกพืช หรือใช้วิธีอื่นตามคำแนะนำบนฉลาก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ฆ่าเมล็ดวัชพืชในขณะที่งอก
– ไม่ต้องใช้ฝนช่วยเร่งให้ออกฤทธิ์กำจัดวัชพืช
– การใช้แบบคลุกดินจะทำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
– อาจผสมใช้ร่วมกับปุ๋ยแห้งหรือปุ๋ยน้ำก็ได้
เวอร์โนเลท
(vernolate)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดวัชพืช thiocarbamate ประเภทเจาะจงพืช กำจัดวัชพืชแบบก่อนงอกหรือคลุมการงอกของเมล็ด
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,780 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 5,000 มก./กก.
วัชพืชที่กำจัดได้ วัชพืชใบกว้างและหญ้าต่าง ๆ
พืชที่ใช้ ถั่วลิสง มันฝรั่ง ข้าวโพด ยาสูบและถั่วเหลือง
สูตรผสม 5% , 10% จี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก ด้วยการคลุกกับดินก่อนปลูกหรือก่อนงอก
การแก้พิษ ยาแก้พิษโดยเฉพาะยังไม่เป็นที่ทราบกัน รักษาตามอาการ