ตัวยาที่ใช้ฆ่าวัชพืชในนาข้าว มีฤทธิ์ทำลายอยู่ทั้งหมด 8 กลุ่ม…

1.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ACCase…มีชื่อยาสามัญว่า ฟิโนซาพรอพ, ไซฮาโลฟอน, ควิซาโลฟอน, โพรฟ็อกซิดิม

2.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งเซลล์…ชื่อยาสามัญ บิวตาคลอร์, แพรทริลาคลอร์

3.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์แสง…ชื่อยาสามัญ โพรพานิล

4.กลุ่มออกฤทธิ์การทำงานของเอนไซม์ ALS…ชื่อตัวยาสามัญ บิสไพรีแบคโซเดียม, ไพริเบ็นโซซิม, เมทซัลฟูรอน/คลอริมูรอน, เอท็อกซีซัลฟูรอน, พีน็อกซูแลม, ไพราโซซัลฟูรอน

5.กลุ่มออกฤทธิ์ยังย้ังการสังเคราะห์กรดไขมัน…ชื่อตัวยาสามัญ ไธโอเบนคาร์บ

6.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ PPO…ชื่อตัวยาสามัญ ออกซาไดอะซอน, ออกซาไดอาร์กิล

7.กลุ่มออกฤทธิ์ทำงานคล้ายฮอร์โมน IAA…ชื่อตัวยาสามัญ 2,4-ดี

8.กลุ่มออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์แคโรทีนนอยด์…ชื่อตัวยาสามัญ โคลมาโซน

สารฯกลุ่มที่เราใช้ในการป้องกันกำจัด เชื้อราไฟทอฟทอรา หลักๆ คือ
…..กลุ่ม A1 เฟนนิลเอไมด์ เป็นสารออกฤทธิ์ดูดซึมและมีการต้านทานสารฯข้ามกลุ่ม เมื่อใช้เป็นประจำ…..เมทาแลกซิล – ริดโดมิลเป็นตัวหลักที่เราใช้ ส่วนใหญ่เป็นสารฯที่นำเข้ามาจากจีน มีราคาถูกทำให้มีการใช้พร่ำเพรื่อ จนเชื้อต้านทานต้องใช้อัตราสูงขึ้น ใช้ ริดโดมิล-เอ็ม(+แมนโคเซป)หรือจะเลือกสูตรใหม่ที่เค้าเปลี่ยนโครงสร้าง ริดโดมิล-โกลด์ ส่วนเบนาแลกซิล – กัลเบน,….. ออกซาไดซิล -แซนโดแฟน ที่มีจำหน่ายเป็นสูตร+แมนโคเซป ในบางพื้นที่หาซื้อมาใช้ยาก
…..กลุ่มสารฯที่แนะนำให้ใช้สลับ กลุ่ม H5 คาร์บอกซิลิกแอซิดเอไมด์…..ไดเมทโธมอร์ป – ฟอรัม , อะโกรแบท(+แมนโคเซป)…..ไอโพรวาลิคาร์บ – อินเวนโต(+โพรพิเนป) ผู้ผลิตบอกว่าถ้าเชื้อราต้านทานกลุ่ม A1 ให้ใช้กลุ่มนี้สลับ มีสารใหม่ในกลุ่มนี้ขึ้นทะเบียนผ่านแล้ว แมนดิโปรปามิด – รีวุส( + แมนโคเซป) วาลิฟีนาเลท – เอสโตเคด ( + แมนโคเซป)
…..การใช้สารฯกลุ่มสัมผัสเข้ามาแทรกก็เป็นทางเลือกที่ดีและช่วยยืดเรื่องความต้านทาน กลุ่ม M ออกฤทธิ์หลายจุดแบบสัมผัส แมนโคเซป – ไดเทน เอ็ม,…..แมนเซท ดี…..เพนโคเซป,….. โพรพิเนป – แอนทราโคล,…..โฟลเพท – โกลด์ทอป ชื่อการค้าที่แนะนำไว้คือสารฯมาตรฐานคุณภาพดี แต่ราคาจะแพงหน่อย
…..หรือ กลุ่ม U ยังไม่ทราบการออกฤทธิ์ ไซมอคซานิล – เคอร์เซท เอ็ม(+แมนโคเซป)
มีสารในกลุ่มนี้ที่นิยมใช้ เพราะออกฤทธิ์ดูดซึมทั้งขึ้นบนและลงล่าง คือ U33 ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม – อาลีเอท เมื่อเปิดใช้แล้วจะต้องปิดปากถุงให้สนิท เพราะสารดูดความชื้นได้เร็ว กลายเป็นก้อนสีดำไม่ละลายน้ำ และ ฟอสฟอรัสแอซิด – คิวโปรฟอส, โฟลิ-อาร์-ฟอส, ทั้ง 2 ชนิดเป็นปุ๋ยในรูปฟอสไฟต์ (PO3-) ห้ามใช้พร้อมกับปุ๋ย เพราะธาตุโลหะที่มีประจุ +2 ในปุ๋ยจะทำปฏิกิริยาทำให้สูญเสียประสิทธิภาพ สารกลุ่มนี้ใช้กระตุ้นให้พืชสร้างภูมิต้านทาน (phytoalexin)และยับยั้งการงอกของเส้นใยเชื้อรา (mycelia) ระงับการเจริญของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
…..ถ้าปัญหาหนักหนามากก็คงต้องใช้บริการกลุ่ม C ยับยั้งระบบหายใจ C 3 อะซอคซีสโตรบิน – อมิสตา,…..ไพราโคลสโตรบิน -เฮดไลน์,….. คริโซซิมเมทธิล – สโตรบี้,…..ไตรฟลอกซีสโตรบิน – ฟลิ้น,….. ฟาโมซาโดน – อิเควชั่น(+ไซมอกซานิล),…..ฟีนามีโดน- ซีเคียว(+แมนโคเซป) ข้อจำกัดเหมือนกลุ่ม A 1 เลือกใช้สารใดสารหนึ่งและไม่ใช้ซ้ำในกลุ่มเดียวกัน ไม่ใช้ซ้ำต่อเนื่องกันเกิน 2 ครั้ง
กลุ่ม B ยับยั้งไมโตซีสและการแบ่งเซล …..B3 อีทาบอกแซม – ทาบอก
สารกลุ่มใหม่ล่าสุดที่ใช้ป้องกันกำจัดเชื้อรากลุ่มนี้ กลุ่ม B5 + U33 ฟลูโอพิโคไลด์ + ฟอสอีทิล – อะลูมีเนียม – โปรไฟเลอร์

www.irac-online.org…………..สารกำจัดแมลง
www.frac.info………………… สารป้องกันและกำจัดโรคพืช
www.hracglobal.com…………..สารกำจัดวัชพืช
www.rrac.info………………… สารกำจัดหนู
www.alanwood.net……………รายละเอียดของสารกำจัดศัตรูพืช
www.accuweather.com………..สภาพอากาศทั่วโลก
www.tmd.go.th………………..กรมอุตุนิยมวิทยา
www.biology-online.org………คำศัพท์ชีววิทยา
www.fertilizer101.org…………ปุ๋ย

หอยทาก (Snails and Slug) ที่พบในแหล่งปลูกกล้วยไม้ในประเทศไทย
(ที่มา หอยทาก ศัตรูกล้วยไม้ โดย ชมพูนุช จรรยาเพศ)

๑. หอยเลขหนึ่ง ………………………..Ovachlamys flugens (Gude)

๒. หอยทากซัคซิเนีย (Amber snail)……Succinea minuta (Von Martens)

๓. หอยดักดาน………………………….Cryptozona simensis (Pfeiffer)

๔. หอยสาริกา…………………………..Sarika obesior (Von Martens)

๕. หอยทากยักษ์อาฟริกา………………..Achatina fulica (Bowdich)

๖. ทาก…………………………………Parmarion pupillaris (Humbert)

Read More

โรคเน่าดำ,ยอดเน่า, เน่าเข้าไส้ เกิดจากเชื้อราไฟทอฟธอรา ปาลมิโวรา ทางวิชาการเรียกกลุ่มนี้ว่าราน้ำ (aquatic fungi)

ในการแพร่ระบาดเชื้อราจะสร้างสปอร์แบบมีหาง(zoospore)สามารถว่ายน้ำได้ เมื่อมีฝนตกก็จะเปิดปล่อยสปอร์ออกมา แยกกระจายกระเด็นตามน้ำฝนหรือว่ายไปยังส่วนต่างๆได้ ที่ไหนเหมาะสมก็จะฝังตัวเข้าไปและก่อให้เกิดโรค

สารฯกลุ่มที่เราใช้ในการป้องกันกำจัดหลักๆคือ

…..กลุ่ม A1 เฟนนิลเอไมด์ เป็นสารออกฤทธิ์ดูดซึมและมีการต้านทานสารฯข้ามกลุ่ม เมื่อใช้เป็นประจำ…..เมทาแลกซิลริดโดมิล เป็นตัวหลัก ที่เราใช้ส่วนใหญ่เป็นสารฯที่นำเข้ามาจากจีน มีราคาถูกทำให้มีการใช้พร่ำเพรื่อ จนเชื้อต้านทานต้องใช้อัตราสูงขึ้น แต่ในกล้วยไม้มีข้อจำกัด ถ้าใช้อัตราสูงจะมีผลกระทบต่อระบบราก ทำให้รากกุดได้ สำหรับกล้วยไม้รองเท้านารีอยากแนะนำให้ใช้ตัวหลัก เพราะไม้เรามีราคา ใช้ ริดโดมิล-เอ็ม(+แมนโคเซป)หรือจะเลือกสูตรใหม่ที่เค้าเปลี่ยนโครงสร้าง ริดโดมิล-โกลด์ ส่วนเบนาแลกซิลกัลเบน,….. ออกซาไดซิลแซนโดแฟน ทีมีจำหน่ายเป็นสูตร+แแมนโคเซป ในบางพื้นที่หาซื้อมาใช้ยาก

Read More

คณะกรรมการด้านการต้านทานเกี่ยวกับสารป้องกันกำจัดโรคพืช มีเวปไซท์ www.frac. info อยากให้แวะเข้าไปเยี่ยมชมจะได้รู้ที่มาที่ไป รู้ว่าเขาทำงานอย่างไร และเราจะเอามาใช้ประโยชน์ได้แบบไหนอย่างไร ส่วนในที่นี้ขอสรุปเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นและจะพยายามให้ข้อมูลเพื่อใช้ค้นคว้าต่อไป

ชื่อตัวเอนเป็นชื่อสามัญ ชื่อตัวตรงเป็นชื่อการค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายเป็นครั้งแรกในประเทศ ตัวเลขข้างท้ายคือค่าความเป็นพิษ(LD50) ส่วนชื่อเชื้อ ตัวเอนเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ ข้อความต่อไปนี้รวบรวมจากประสบการณ์ในการทำงาน และด้วยความจำกัดในด้านโรคพืชอาจจะมีข้อมูลคลาดเคลื่อน ขอรบกวนผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญช่วยติและแก้ไขด้วย

สารป้องกันกำจัดโรคพืช (Fungicide)

A. ยับยั้งการสังเคราะห์กรดนิวคลิอิค…………………………LD50

…..A1 กลุ่มเฟนนิลอะไมด์…..(FC 4)
อะซิลอะลานิน………………..เบนาแลกซิล……………กัลเบน…………………………4,200
……………………………..เมทาแลกซิล……………ริดโดมิล………………………….669
ออกซาโซลิดิโนน……………..อ๊อกซาไดซิล…………..แซนโดแฟน……………………1,860

Read More

แมลงตัวเต็มวัย มี ๖ ขา ลำตัวแบ่งเป็น ๓ ส่วน คือ หัว อก ท้อง มีปีก ๑-๒ คู่

แมลงมีพัฒนาการหลักๆ ๒ แบบ

๑. ไข่(egg)—–> ตัวอ่อน(nymph)—–> ดักแด้(pupa)—–> ตัวเต็มวัย(adult)

……..ตย.เช่น…..เพลี้ยไฟ…..เพลี้ยอ่อน…..เพลี้ยหอย……เพลี้ยจักจั่น…..เพลี้ยกระโดด…..มวน
ตัวอ่อนจะจำลองตัวเต็มวัย เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่าและอวัยวะบางส่วนยังพัฒนาอยู่

๒. ไข่(egg)—–> ตัวหนอน(larva)—–> ดักแด้(pupa)—–> ตัวเต็มวัย(adult)

Read More

กลุ่ม 10 สารควบคุมการเจริญเติบโตของไรศัตรูพืช (ระบบเจริญเติบโต)
10A เฮกซีไธอะซอค…………….นิสโซรัน

กลุ่ม 12 ยับยั้งการสังเคราะห์เอ ที พี ในไมโตครอนเดรีย (ระบบพลังงาน)
12B เฟนบูทาทินออกไซด์………..ทอร์ค
12C โพรพาไจ้ท์………………..โอไมท์
12D เตตระไดฟอน………………ทีไดออน วี18

กลุ่ม 19 กระตุ้นจุดรับสารออคโตพามีน (ระบบประสาท)
อามีทราซ…………………ไมแทค

Read More

เพลี้ยไฟกะไอ้ฮวบ (ไอ้ฮวบ,บั่วกล้วยไม้,หนอนแมลงวันชอนดอกกล้วยไม้)
(Thrips>>> Thrips palmi and Orchid blossom midge>>> Contarinia maculipennis)

สองศัตรูตัวร้ายของช่อดอกกล้วยไม้ ในช่วงปีที่ผ่านมาอากาศแปรปรวนเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ ทำให้การระบาดของเพลี้ยไฟกะไอ้ฮวบมีสลับกันตลอดทั้งปี สร้างความเสียหายมากมาย การตรวจพบการระบาดตั้งแต่เนิ่นๆจึงเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันกำจัด หลักในการจัดการก็คือ เราต้องเดินตรวจสวนเองทุกวัน ถ้าตัดไม้เอง กำไม้เองก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะเราจะได้พบเห็นปัญหาตั้งแต่เริ่ม การป้องกันกำจัดสามารถทำได้ทันทีทันเหตุการณ์

Read More

ขอทำความเข้าใจก่อน ส่วนนี้ขอเสนอเป็นภาษาไทย โดยคัดเฉพาะที่มีจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก ชื่อที่เป็นตัวเอนคือชื่อสามัญ ชื่อตัวตรงคือชื่อการค้าชื่อแรกที่นำเข้า ชื่อสีแดงยังไม่มีจำหน่าย(ยังรอทะเบียน, ยกเลิก) ตัวเลขท้ายชื่อเป็นค่าความเป็นพิษ(ตัวเลขยิ่งน้อยความเป็นพิษยิ่งมาก ตัวเลขยิ่งมากความเป็นพิษก็จะน้อยลง ต้นฉบับภาษาอังกฤษ(English version please search at www.irac-online.org MoA classific ation 2011)

กลุ่ม 1 ยับยั้งเอนไซม์อะเซทติลโคลีนเอสเตอเรส (AChE) ระบบประสาท 

1A คาร์บาเมท………………………LD50
คาร์โบฟูแรน…………..ฟูราดาน………….8………ดูดซึม……………………ไร-ไส้เดือนฝอย
คาร์โบซัลแฟน…………พอสซ์…………200…………………………………ไส้เดือนฝอย
เมทโธมิล……………..แลนเนท…………17
อะลานีคาร์บ…………..โอเรียน…………440……..สัมผัส-กิน
เบนฟูราคาร์บ………….ออนคอล……….138………………………………….ไส้เดือนฝอย
คาร์บาริล………………เซฟวิน…………850
ฟีโนบูคาร์บ…………….บัสซ่า………….700
ฟอร์มีทาเนท…………..ไดคาร์โซล……….15…………………………………ไร
ไอโซโปรคาร์บ………….มิพซิน…………400
เมทธิโอคาร์บ…………..เมซูโรล………..100………………………………….ไร-ไล่นก-หอยทาก
โพรโปเซอร์…………….อุนเดน………….50

Read More