ด้วงหมัดผักแถบลาย ( leaf eating beetle)

ชื่อวิทยาศาสตร์                   Phyllotreta sinuate Stephen

วงศ์                                        Chrysomelidae                                   

อันดับ                                    Coleoptera                           

ความสำคัญและลักษณะการทำลาย

ด้วงหมัดผักพบแพร่ระบาดอยู่โดยทั่วๆไปในธรรมชาติ พบ 2 ชนิด คือ ด้วงหมัดผักแถบลาย P. sinuate และด้วงหมัดผักสีน้ำเงิน P. chontanica ชนิดที่สำคัญคือ ด้วงหมัดผักแถบลายตัวอ่อนกัดกินหรือชอนไชเข้าไปกินอยู่บริเวณโคนต้นหรือรากของผัก ทำให้พืชผักเหี่ยวเฉาและไม่เจริญเติบโต ถ้ารากถูกทำลายมากๆ ก็อาจจะทำให้พืชผักตายได้ ตัวเต็มวัยชอบกัดผิวด้านล่างของใบทำให้ใบเป็นรูพรุน และอาจกัดกินผิวลำต้น และกลีบดอกด้วย ด้วงหมัดผักชอบอยู่ร่วมกันกลุ่มๆ ตัวเต็มวัยเมื่อถูกกระทบกระเทือนจะกระโดดและสามารถบินได้ไกลๆ

Read More

       คาร์บาเมต (carbamates) เป็นยาฆ่าแมลงกลุ่มหนึ่งที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน สารเคมีในกลุ่มนี้ตัวแรกที่มีประวัติในการใช้ ก็คือ อีเซอรีน (eserine) หรือ ฟัยโสสติกมีน (physostigmine) สารนี้เป็นสารพิษที่พบในเมล็ดถั่วคาลาบาร์ (Calabar beans) ซึ่งเป็นพืชในวงศ์เลกูมิโนเซ (Leguminosae) จากอาฟริกาตะวันตก เมล็ดถั่วคาลาบาร์นี้จะใช้กระบวนการทางกฎหมาย โดยผู้ที่ตกเป็นต้องสงสัยในคดีต่างๆต้องรับประทานยาที่ปรุงจากเมล็ดถั่วนี้ ถ้าสามารถรอดชีวิตได้จะถือว่าไม่มีความผิด การทดสอบนี้ทำเพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ มากกว่าเป็นการลงโทษ

       อีเซอรีน เป็นสารยับยั้งอะเซทิลโคลิเนสเทอเรส (acetylcholinesterase inhibitor) ตัวแรกที่เป็นที่รู้จัก โดยในหนู มีขนาดที่ทำให้ประชากร 50% ตาย หรือที่เรียกว่า แอลดี50 (LD50) เท่ากับ 4.5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยการกิน และ 0.64 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยการฉีดเข้าทางช่องท้อง

สูตรโครงสร้างทางเคมีทั่วไปของยาฆ่าแมลงกลุ่มคาร์บาเมต เป็นดังรูปข้างล่าง โดยส่วนใหญ่ของยาฆ่าแมลงมักจะมีสูตรโครงสร้างทั่วไปเป็นดังรูปทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นการง่ายที่จะสังเกตหรือจดจำสารเคมีกลุ่มนี้ได้จากสูตรโครงสร้างทางเคมี

Read More

อักษรย่อเหล่านี้คือชื่อรูปแบบสูตรผสมแต่ละชนิด นิยมใช้ระบบอักษรย่อเป็นอักษรอังกฤษ 2 ตัว กำหนดโดยกลุ่มผู้ผลิตสารเคมีการเกษตรนานาชาติ หรือ GIFAP โดยแบ่งตามลักษณะทางกายภาพและการนำไปใช้งาน ยกตัวอย่างอักษรย่อดังต่อไปนี้ ได้แก่…..

EC: Emulsifiable Concentrate สูตรชนิดน้ำมันเข้มข้น เป็นของเหลวที่ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อทำการเจือจางด้วยน้ำก่อนนำไปใช้ จะได้สารอิมัลชั่นมีลักษณะขุ่นขาว

Read More

ธาตุรอง+จุลธาตุใช้ เกลือซัลเฟทที่มี น้ำเกาะอยู่ 5-7 ตัวเพื่อให้ละลายน้ำได้ดี

แมกนีเซียมซัลเฟท………..MgSO4.7H2O…..300 กรัม 4.8%
สังกะสีซัลเฟท……………..ZnSO4.7H2O……150 กรัม 5.25%
เหล็กซัลเฟท………………..FeSO4.5H2O……..50 กรัม 1.5%
แมงกานีสซัลเฟท………….MnSO4.5H2O…….50 กรัม 1.6%

ละลายในน้ำ 600-700 ซีซี. แล้วเติมน้ำให้ครบ 1 ลิตร

แคลเซียม + โบรอนใช้

แคลเซียมไนเตรท……..Ca(NO3)2 15-0-0+Ca19%…….320 กรัม
กรดบอริก………………H3BO3……….มี B17%……………120 กรัม

ละลายในน้ำ 500-600 ซีซี. แล้วเติมน้ำให้ครบ 1 ลิตร

อัตราการใช้ 30-50 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร

สาหร่ายทะเลสกัด20% w/v ใน 1 ลิตรมีส่วนประกอบตามนี้

ผงสาหร่ายทะเลสกัด 200 กรัม
สารกันบูด (ทั่วไปใช้ ฟอร์มาลิน (สารดองศพ)——โซเดียมเบนโซเอท) แต่ของเราใช้ นิพาซอล เอ็ม ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยาและเครื่องสำอาง ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้และพืชมากกว่า ตามคำแนะนำของบริษัทแม่ในต่างประเทศ

วิธีทำ เตรียมน้ำ 700 ซีซี. ค่อยๆใส่ ผงสาหร่ายทะเลสกัดทีละน้อย คนให้ละลายให้หมด จนครบ 200 กรัม (เติมสารอื่นๆที่อยากจะใส่) เติมสารกันบูด เติมน้ำจนครบ 1 ลิตร

ส่วนประกอบใน B1 สารเรียกราก ปริมาณ 1 ลิตร ใช้

Vitamin B1 (จากยาสัตว์)…….. 5 กรัม
NAA 4.5% w/v………..……25 ซีซี. (Naphthalene Acetic Acidเป็นออกซินที่สังเคราะห์ขึ้นมาใช้ เพราะมีความคงตัวสูง แทน IAAและ IBA)
Trace element…………….50 กรัม

ควรปรับน้ำที่ใช้ผสมให้มี pH 5.0 ก่อนผสม…..