เพ็นไซคูรอน
(pencycuron)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา phenylurea ประเภทไม่ดูดซึม ออกฤทธิ์เมื่อสัมผัสถูก และ ให้ผลในทางป้องกันมิให้เกิดโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 5,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคที่เกิดจากเชื้อ Rhizoctonia spp. และ Pellicularia spp. โรคเน่าคอดิน โรคกาบใบไหม้และอื่น ๆ
พืชที่ใช้ มันฝรั่ง ข้าว ไม้ดอก ไม้ประดับและพืชอื่น ๆ
สูตรผสม 25% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก
การแก้พิษ ยาแก้พิษโดยเฉพาะยังไม่เป็นที่ทราบกัน รักษาตามอาการที่ปรากฏ
ข้อควรรู้ – ถ้าใช้ตามคำแนะนำจะไม่เป็นพิษต่อต้นพืช
– เป็นพิษต่อปลา
– ไม่กำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อ Pythium spp. และ Fusarium spp.
– ผสมกับสารกำจัดเชื้อราอย่างอื่นได้เพื่อให้สามารถกำจัดโรคพืชได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ฟีนาซิน – อ๊อกไซด์
(phenazin oxide)
การออกฤทธิ์ กำจัดเชื้อรา
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 3,310 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคใบไหม้ของข้าวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย (bacteria)
พืชที่ใช้ ข้าว
สูตรผสม 10% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ ในกรณีที่กินเข้าไป ต้องทำให้อาเจียน แล้วรักษาตามอาการ ในกรณีที่เกิดพิษเนื่องจากการสัมผัสที่ผิวหนังและดวงตา ให้ล้างด้วยน้ำมาก ๆ นานอย่างน้อย 15 นาที
ฟอสโฟรัส แอซิค
(phosphorous acid)
การออกฤทธิ์ เป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืชประเภทดูดซึม (systemic) และสามารถเคลื่อนย้ายภายในต้นพืชได้อย่างดี
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 11,800 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 13,400 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคโคนเน่า หรือรากเน่าที่เกิดจาก Phytophthora sp.
พืชที่ใช้ ส้มต่าง ๆ สัปปะรด และทุเรียน
สูตรผสม 40% W/V A5
อัตราการใช้ ใช้โดยวิธีอัดฉีดเข้าต้นพืช ใช้ผสมกับน้ำกลั่นในอัตรา 1:1 ถ้าใช้วิธีราดโคนต้นหรือฉีดพ่นใบ ใช้อัตรา 100 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดที่ใบหรือราดโคนต้นในอัตราต้นละ 5 ลิตร ทุกระยะ 30 วัน
อาการเกิดพิษ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา สำหรับผู้แพ้ หากกลืนกินเข้าไป อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็วและอาเจียน
การแก้พิษ รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่มีการใช้วัตถุมีพิษ ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ หากเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง หากเข้าปากให้รีบล้างปากด้วยน้ำสะอาด ถ้ากลืนกินและยังไม่หมดสติ ทำให้อาเจียนโดยการล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น ถ้าหายใจติดขัดให้ช่วยผายปอดแล้วนำผู้ป่วยส่งแพทย์ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ ควรพ่นก่อนหรือหลังฝนตก 4-6 ชั่วโมง
พีเอ็มเอ หรือ ซีรีแซน
(PMA or Ceresan)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อราที่มี mercury เป็นองค์ประกอบ มีประสิทธิภาพในการกำจัดโรคพืชที่เกิดตามใบและใช้คลุกเมล็ดป้องกันโรคพืช
ความเป็นพิษ ชนิด 20% มีพิษเฉียบพลันทางปาก 100 มก./กก. ชนิด Technical grade มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 22-44 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคที่เกิดจากเมล็ด (seed born) โรค dollar spot โรค copper spot โรค brown และ pink patch โรคที่เกิดจากเชื้อ Helminthosporium spp. และโรคอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ใช้คลุกเมล็ดฝ้าย ข้าว ข้าวฟ่าง และข้าวสาลี
สูตรผสม 1-22% ดับบลิวพี
ข้อควรรู้ ปัจจุบันไม่มียาชนิดนี้จำหน่ายในประเทศและถูกห้ามใช้ในอีกหลาย ๆ ประเทศ
โปลี่อ๊อกซิน
(polyoxins)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา antibiotic ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลัน 21,200 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคกาบใบไหม้ของข้าว โรคจุดดำ โรคที่เกิดจากเชื้อ Alternaria และ Botrytis โรคเน่า Sclerotinia โรคใบจุด โรคราแป้ง และอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ข้าว มะเขือเทศ พืชตระกูลแตง สตรอเบอร์รี่ แครอท ไม้ดอกและไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม 2.2% ดับบลิวพี 10% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก เมื่อมีโรคพืชปรากฏ ฉีดพ่นซ้ำได้ทุก 10 วัน
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ห้ามผสมกับสารเคมีที่มีสภาพเป็นด่าง
– ผสมได้กับสารกำจัดศัตรูพืชอย่างอื่น
โปรคลอราซ
(prochloraz)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา imidazole ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันและกำจัดโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 1,600 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 3,000 มก./กก. ทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคราแป้ง Fusarium , Septoria spp. โรคสแคป Botrytis , Alternaria , Sclerotina , Cercospora , Rice blast , Penicillium spp. และโรคอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
พืชที่ใช้ ข้าวและธัญพืชทั่วไป เห็ดและผักต่าง ๆ
สูตรผสม 50% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ผสมน้ำแล้วฉีดพ่นที่ใบและต้นพืช เมื่อพบเห็นว่าโรคพืชเริ่มปรากฏ ใช้เป็นสารคลุกเมล็ดป้องกันโรคพืชได้ด้วย
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา แต่ปลอดภัยสำหรับผึ้งและแมลงที่มีประโยชน์อื่น ๆ
– อาจใช้ผสมฉีดพ่นร่วมกับสารกำจัดศัตรูพืชอย่างอื่นได้
โปรไซมิโดน
(procymidone)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา dicarboximide ประเภทดูดซึม และออกฤทธิ์ในทางสัมผัส ให้ผลในทางป้องกันและบำบัดรักษาโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 6,800 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,500 มก./กก. (หนู)
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคที่เกิดจากเชื้อ Botrytis , Sclerotinia , Helminthosporium และ Monillinia spp.
พืชที่ใช้ พืชผัก ไม้ผลและพืชไร่ เช่น ธัญพืช ถั่ว มันฝรั่ง และอื่น ๆ
สูตรผสม 50% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก เมื่อปรากฏว่ามีโรคพืช ใช้ซ้ำได้ตามกำหนด
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ห้ามผสมกับสารเคมีที่มีสภาพเป็นด่าง
– ค่อนข้างจะเป็นพิษต่อปลา
– ให้ผลดีในการกำจัดเชื้อโรคพืชที่มีความต้านทานต่อสารกำจัดเชื้อราโนมิลและธิโอฟาเนท เม็ทธิล
– มีความคงตัวอยู่ได้นานมากกว่าหนึ่งอาทิตย์
โปรพาโมคาร์บ
(propamocarb)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา carbamate ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันโรคพืช สามารถดูดซึมเข้าไปในต้นได้โดยทางรากและเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ใบพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 7,860 มก./กก. (หนู) ทางผิวหนัง มากกว่า 3,600 มก./กก. (กระต่าย)
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคเน่าคอดิน โรค Black shank โรคราน้ำค้าง โรคราสนิม และโรคที่เกิดจากเชื้อ Pythium , Phytophthora , Bremia , Aphanomyces , Peronospora , Pseudoperonospora และอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ยาสูบ พืชผักและพืชอย่างอื่น
สูตรผสม 72% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก ใช้ซ้ำได้ทุก 7-21 วัน
การแก้พิษ ยาอะโทรปิน
ข้อควรรู้ – ควรใช้เป็นสารป้องกันโรคพืช
– ควรใช้ร่วมกับสารกำจัดเชื้อราอย่างอื่นเพื่อเพิ่มขอบเขตการกำจัดโรคพืช
– ไม่เป็นพิษต่อปลาและสัตว์ป่า
– ออกฤทธิ์ตกค้างอยู่ได้ 10-21 วัน
โปรฟิโคนาโซล
(propiconazole)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา triazole ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางบำบัดรักษาและป้องกันโรคพืช ใช้กับโรคที่เป็นกับใบพืชโดยเฉพาะ
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,517 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 4,000 มก./กก. (หนู) อาจทำให้ผิวหนัง ดวงตาและระบบทางเดินหายใจเกิดอาการระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคที่เกิดจากเชื้อ Erysiphe spp. โรค dollar spot โรค brown patch โรคราน้ำค้าง โรคราสนิม โรคสมัท (smut) และโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากเชื้อ Puccinia spp , Septoria spp , Rhynochosporium spp. และเชื้อ Pseudocercosporella spp.
พืชที่ใช้ ถั่วลิสง ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ ข้าวโอ๊ท และธัญพืชอื่น ๆ ดอกเบญจมาศ ยางพารา กาแฟ อ้อย
สูตรผสม 25% ดับบลิวพี 12.5% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก เมื่อตรวจพบว่ามีโรคพืชเกิดขึ้น ใช้ซ้ำได้ตามความจำเป็น
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 4-5 สัปดาห์
– ให้ผลในการควบคุมโรคพืชได้นาน 3-6 อาทิตย์
– เพื่อเพิ่มขอบเขตความสามารถในการกำจัดโรคพืชให้กว้างขวางยิ่งขึ้น อาจใช้ร่วมกับสารกำจัดเชื้อราอย่างอื่นได้
– ในทางปฏิบัติ เป็นพิษต่อปลา
โปรพิเน็บ
(propineb)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา carbamate ออกฤทธิ์ให้ผลทางด้านป้องกันโรคพืชที่เกิดตามใบ สารตกค้างออกฤทธิ์อยู่ได้นานและกำจัดไรได้ด้วย
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 8,500 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 1,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคที่เกิดจากเชื้อ Septoria spp. โรค Sigatoka โรคราน้ำค้าง โรค Earty and late blight โรคที่เกิดจากเชื้อ Botrytis spp , Cercospora spp , Phytophthora spp , Alternaria spp. และโรคราแป้ง
พืชที่ใช้ กล้วย ส้ม ฝ้าย องุ่น มันฝรั่ง ข้าว ชา มะเขือเทศ ยาสูบ ผักต่าง ๆ หอม กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง ไม้ผล ไม้ดอกและไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม 70% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ โดยทั่วไปใช้อัตรา 30-40 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร กวนให้เข้ากันดี แล้วฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืชทุก 7-10 วัน
อาการเกิดพิษ ถ้าเข้าตา จมูกหรือถูกผิวหนัง จะมีอาการคัน เป็นผื่นแดง ถ้ากินเข้าไปจะปวดศีรษะ เซื่องซึม คลื่นเหียน อาเจียน ท้องร่วง อ่อนเพลีย
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ถ้ากลืนกินเข้าไป รีบทำให้คนไข้อาเจียนด้วยการล้วงคอ หรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น แล้วนำส่งแพทย์ สำหรับแพทย์ ล้างท้องคนไข้แล้วตามด้วยยา Lacative salt สูดดม Camomile แล้วรักษาตามอาการ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ ห้ามให้ยา หรืออาหารที่มีแอลกอฮอล์ ไขมัน และน้ำมันผสมอยู่
ข้อควรรู้ – อย่าใช้ฉีดพ่นก่อนหรือหลังที่ใช้สารกำจัดเชื้อราที่มี copper ประกอบอยู่
– เมื่อผสมกับสารที่มีสภาพเป็นด่าง ให้รีบฉีดพ่นทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้
– ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชอย่างอื่นได้
– ไม่เป็นอันตรายต่อผึ้ง
โปรธิโอคาร์บ
(prothiocarb)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อราและคลุกเมล็ดป้องกันโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,300 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคพืชที่เกิดจากเชื้อ Pythium spp , Peronospora spp , Bremia spp , Phytophthora spp. และเชื้อ Peronosporales
พืชที่ใช้ ใช้คลุกเมล็ด
สูตรผสม 70% แอลซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้คลุกเมล็ด หยอดตามร่องปลูกและร่องหว่านหรือฉีดพ่นทั้งก่อนและหลังงอก
ไพราคาร์โบลิด
(pyracarbolid)
การออกฤทธิ์ กำจัดเชื้อราประเภทดูดซึม
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 15,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคราสนิม โรคสมัท โรครากเน่าและโรคโคนเน่า
พืชที่ใช้ ข้าว ธัญพืช ชา กาแฟ ไม้ประดับ เมล็ดฝ้ายและธัญพืชต่าง ๆ
สูตรผสม 50% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
ไพราโซฟอส
(pyrazophos)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา organophosphate pyrimidine ประเภทดูดซึมออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันและบำบัดรักษาโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 415-778 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคราแป้ง และโรคที่เกิดจากเชื้อ Helminthosporium spp.
พืชที่ใช้ องุ่น พืชตระกูลแตง ฟักทอง สตรอเบอร์รี่ ธัญพืช ยาสูบ ผักต่าง ๆ และไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม 30% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตรา 6-10 ซีซี ผสมกับน้ำ 20 ลิตร กวนให้ผสมกันดี แล้วฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช ใช้ซ้ำได้ทุก 7-14 วัน
อาการเกิดพิษ อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง ถ้าเข้าปาก จะมีอาการมึนงง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย กระวนกระวาย อาการสั่นที่ปลายลิ้นและเปลือกตา ม่านตาหรี่ คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออกมาก ปวดท้องเกร็ง ชีพจรเต้นช้า กล้ามเนื้อเกร็ง ในกรณีที่รับพิษเข้าไปมากระบบประสาทจะถูกทำลายและกล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังหรือดวงตา ให้ล้างด้วยน้ำมาก ๆ ถ้าเข้าปาก ห้ามทำให้อาเจียน สำหรับแพทย์ ให้คนไข้ด้วยยา liquid paraffin ขนาด 200 มิลลิลิตร แล้วล้างท้องโดยใช้น้ำ 4 ลิตร ระวังอย่าให้สารพิษหลงเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ เมื่อล้างท้องเสร็จแล้วให้คนไข้รับประทานแอ๊คติเวทเต็ด ซาร์โคล และ โซเดียมซัลเฟท ให้ อะโทรปินซัลเฟท 2 มิลลิกรัม ฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำและฉีดซ้ำทุก 15 นาที และให้ Toxogonin 250 มิลลิลิตร หรือฉีด 2-0.5-1 กรัม ทางเส้นเลือดดำช้า ๆ
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 14 วัน
– เป็นอันตรายกับผึ้ง ไม่ควรใช้ในระยะที่พืชกำลังออกดอก
– เป็นอันตรายต่อปลา
– ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นสารคลุกเมล็ดหรือราดดิน
– เข้ากับสารกำจัดศัตรูพืชอื่นได้
ไพโรควิลอน
(pyroquilon)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา pyrroloquinoline ประเภทดูดซึม
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 320 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 3,100 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ กำจัดเชื้อ Pyricularia oryzae ของข้าว
พืชที่ใช้ ข้าว
สูตรผสม 2.7% จี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
ควินโตซีน หรือ พีซีเอ็นบี
(quintozene or PCNB)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา organochlorine ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกัน โรคพืชที่อยู่ในดินและใช้คลุกเมล็ด
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 15,000 มก./กก. อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคเน่าดำของกะหล่ำปลี โรครากเน่าของฝ้าย โรคสแคปของกะหล่ำปม โรคที่เกิดจากเชื้อ Rhizoctonia spp. และ Sclerotinia spp. โรคต้นเน่าและรากเน่าของถั่วเหลือง โรคใบไหม้ของมะเขือเทศและพริกไทย โรคเน่าของกระเทียมและโรคอื่น ๆ อีกมาก
พืชที่ใช้ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปม ถั่วต่าง ๆ ข้าว ข้าวโพด ฝ้าย กระเทียม พริกไทย มันฝรั่ง ข้าวฟ่าง มะเขือเทศ ข้าวสาลี กล้วย ไม้ดอกและไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม 75% ดับบลิวพี 24% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ชนิด 75% ใช้คลุกเมล็ดหรือคลุกดินตามอัตราที่กำหนดบนฉลาก หรืออาจจะใช้อัตราที่กำหนดผสมกับน้ำ แล้วราดบริเวณโคนต้นก็ได้
อาการเกิดพิษ ถ้าถูกผิวหนังจะเกิดอาการระคายเคือง หรือมีอาการแพ้ ถ้าเข้าตาจะทำให้ดวงตาอักเสบ ถ้าสูดดมจะทำให้ทางเดินหายใจระคายเคืองและอักเสบ ถ้ากลืนกินเข้าไปจะปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มีพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง หัวใจ กล้ามเนื้อเรียบ ตับและไต
การแก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่มาก ๆ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาด ถ้ากลืนกินเข้าไป ต้องนำคนไข้ส่งแพทย์ทันที ห้ามทำให้อาเจียน รักษาตามอาการไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ
ข้อควรรู้ – ไม่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อ Fusarium และ Pythium spp.
– ห้ามนำเมล็ดที่คลุกด้วยสารชนิดนี้ไปเป็นอาหารคนและสัตว์
– ผสมได้กับสารกำจัดเชื้อราและสารกำจัดแมลงอื่น ยกเว้นพวกที่จะมีปฏิกริยาออกฤทธิ์เป็นด่าง
ซัลเฟอร์
(sulphur)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา inorganic ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันโรคพืช กำจัดไรและแมลงบางชนิดได้
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก มากกว่า 3,000 มก./กก. ไม่เป็นพิษต่อคนและสัตว์ แต่อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคสแคป โรคใบจุด โรคเน่าสีน้ำตาล โรคราแป้งและราน้ำค้าง โรคราสนิม รวมทั้งกำจัดไร เพลี้ยหอยและเพลี้ยไฟได้
พืชที่ใช้ กล้วย องุ่น สตรอเบอร์รี่ ส้ม ฝ้าย ถั่วต่าง ๆ มะม่วง แอสพารากัส ผักต่าง ๆ มะเขือ หอม กระเทียม พริกไทย มันฝรั่ง ฟักทอง มะเขือเทศ ไม้ดอกและไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม 80% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ผสมกับน้ำฉีดพ่นให้ทั่วอย่างสม่ำเสมอ
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – อย่าใช้ในขณะที่อากาศร้อนเกินกว่า 32 องศาเซลเซียส
– ห้ามใช้ร่วมกับสารที่เป็นน้ำมัน หรือภายหลังจากฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นน้ำมันทันที
– เข้ากับสารกำจัดเชื้อราและสารกำจัดแมลงอื่น ๆ ได้
– ไม่มีอันตรายต่อผึ้ง
ทีซีเอ็มทีบี
(TCMTB)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา benzothiazole ใช้เป็นสารคลุกเมล็ดเพื่อป้องกันและรักษาโรคพืชที่อยู่ตามดินและที่อยู่ในเมล็ด
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 1,590 มก./กก. เป็นอันตรายต่อดวงตาและผิวหนัง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคเน่าคอดิน โรคแส้ดำ โรคกลิ่นสัปปะรด โรคใบจุดสีน้ำตาล โรคใบไหม้ โรคเมล็ดด่าง และโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากเชื้อ Helminthosporium , Rhizoctonia , Phythium , Pyricularia , Curvularia , Fusarium & Cercospora spp.
พืชที่ใช้ เมล็ดพันธุ์ถั่ว ข้าว ข้าวโพด ฝ้าย ข้าวสาลี ผักกาด มันฝรั่ง ข้าวฟ่าง และท่อนพันธุ์อ้อย
สูตรผสม 31.5% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ สำหรับคลุกเมล็ดใช้อัตรา 10 ซีซี เมล็ดพันธุ์ 1 กก. คลุกเมล็ดให้ทั่วในภาชนะที่ปิดมิดชิด ชุบท่อนพันธุ์ ใช้อัตรา 86 ซีซี ผสมน้ำ 100 ลิตร ชุบท่อนพันธุ์นาน 1-2 นาที แล้วนำไปปลูก
อาการเกิดพิษ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังและดวงตา
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำจำนวนมาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไปห้ามทำให้อาเจียน ล้างท้องคนไข้ แล้วให้กินถ่านยาแอ๊คติเวทเต็ด ซาร์โคล 30-50 กรัมต่อน้ำ 1 แก้ว รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– อย่าใช้เมล็ดที่คลุกด้วยสารกำจัดเชื้อราชนิดนี้เป็นอาหารคนและสัตว์
ไธอะเบ็นดาโซล
(thiabendazole)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา benzimidazole ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันและบำบัดรักษาโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 3,100 มก./กก. อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ กำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อ Aspergillus , Botrytis , Cercospora , Fusarium , Rhizoctonia spp. เช่น โรคแอนแทรคโนส โรค Dollar spot โรค Brown patch โรคใบจุด โรค Blue mold โรคยอดเน่าและอื่น ๆ
พืชที่ใช้ มันฝรั่ง มะม่วง องุ่น มะละกอ กล้วย ข้าวสาลี ข้าว ถั่วเหลือง ส้ม ยาสูบ ข้าวโพด และอื่น ๆ
สูตรผสม 40% ดับบลิวพี , 80% เอสพี , 90% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราและวิธีการตามคำแนะนำบนฉลาก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – สำหรับมันฝรั่ง ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 21 วัน
– ไม่เข้ากับสารกำจัดศัตรูพืชอื่นจำนวนมาก
– อย่าผสมกับน้ำที่มีสภาพความเป็นด่างสูง
– อย่าผสมกับสารกำจัดเชื้อราพวก copper
– ใช้กำจัดพยาธิตัวกลมของคนและสัตว์ได้ โดยการกินสารนี้เข้าไป
ไธโอฟาเนท
(thiophanate)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา benzimidazole , carbamate ; MBC ประเภทดูดซึมออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันและบำบัดรักษาโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 15,000 มก./กก. ทางผิวหนังมากกว่า 10,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคใบจุด Cercospora โรค Fusarium blight โรคสมัท (Smut) Dollar spot , Copper spot , โรค Brown patch โรคราน้ำค้าง โรคราแป้ง โรค Sclerotinia rot โรคบลาสข้าว โรคต้นกล้าเฉา Verticillium
สูตรผสม 50% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ผสมน้ำฉีดพ่นให้ทั่วใบพืชทุก 1-4 อาทิตย์
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ห้ามผสมกับ Bordeaux mixture หรือ Lime sulfur
– เข้ากับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ ได้ ยกเว้นพวกที่มีสาร copper เป็นองค์ประกอบ
ไธโอฟาเนท เมทธิล
(thiophanate methyl)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา benzimidazole , carbammate ; MBC ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางบำบัดและรักษาป้องกันโรคพืช มีฤทธิ์ในการกำจัดไรได้ด้วย
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 7,500 มก./กก. ทางผิวหนัง (หนู) มากกว่า 10,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคสมัท (Smut) โรคราแป้ง โรคแอนแทรคโนส โรค Dollar spot โรคราสีเทา โรค Brown patch โรค botrytis โรคใบจุด Cercospora โรคจุดดำ โรค Fusarium blight โรคเน่า Penicillium โรคต้นเน่า โรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โรคเน่า Sclerotinia โรค Sigatoka โรคบลาสของข้าว และโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากเชื้อ Pythium และ Fusarium spp.
สูตรผสม 70% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ผสมกับน้ำฉีดพ่นให้ทั่วก่อนที่โรคจะปรากฏ ปกติจะใช้ 4 วันต่อครั้ง
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– ห้ามผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชที่มีปฏิกิริยาเป็นด่าง หรือกับพวกที่มีผสมอยู่
– มีฤทธิ์ตกค้างยาวนาน
– มีฤทธิ์กำจัดไรและไส้เดือนฝอย
ไธแรม
(thiram)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา dithiocarbamate ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันโรคพืชและเป็นสารขับไล่สัตว์บางชนิด
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 780 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 1,000 มก./กก. ทำให้ดวงตา ผิวหนังและระบบทางเดินหายใจเกิดอาการระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคเน่าคอดิน โรคเมล็ดเน่า โรค Seedling blights โรค Brown patch Dollar spot โรคสะแคป โรคราสนิม โรคเน่าดำ โรค Sooth blotch โรค Rhizocpus rot , Botrytisfruit rot โรคใบจุด มะเขือเทศ โรค Late blight และอื่น ๆ
พืชที่ใช้ กล้วย แอปเปิล คื่นฉ่าย มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ ฝ้าย หอม มันฝรั่ง พืชหัวต่าง ๆ ใช้คลุกเมล็ด ถั่วต่าง ๆ คะน้า มะเขือ พริกไทย ฟักทอง แตงโม กะหล่ำปลี แคนตาลูป กะหล่ำดอก ฝ้าย ข้าว มะเขือเทศและข้าวสาลี
สูตรผสม 75% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ถ้าคลุกเมล็ด ใช้อัตรา 2.5-5 กรัมต่อเมล็ด 1 กก. ถ้าฉีดพ่น ใช้อัตรา 30-50 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช
อาการเกิดพิษ ถ้าถูกผิวหนังและมีอาการแพ้ จะมีอาการคัน เป็นผื่นแดง ถ้าสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการไอ หายใจไม่สะดวก ถ้ากลืนกินเข้าไปจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง เหงื่อออก ถ้าพิษรุนแรงจะมีอาการชักและหมดสติ
การแก้พิษ ถ้าเกิดพิษที่ผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดนานประมาณ 10-15 นาที ถ้ากลืนกินเข้าไป ทำให้คนไข้อาเจียนด้วยการล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น แล้วนำผู้ป่วยส่งแพทย์ สำหรับแพทย์ ถ้าผู้ป่วยมีสติดีอยู่ ช่วยทำให้คนไข้อาเจียนโดยใช้ยา syrup of ipecac แล้วตามด้วยน้ำ 1-2 ถ้วย ถ้าไม่อาเจียน ทำให้ท้องว่างด้วย Intubation , Aspiration และ Lavage แล้วรักษาตามอาการ ห้ามมิให้คนไข้ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่เป็นเวลา 3 สัปดาห์
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 1-2 อาทิตย์
– อย่าจับต้องเมล็ดที่คลุกสารชนิดนี้ด้วยมือเปล่า
– เข้ากับสารกำจัดแมลงและสารกำจัดเชื้อราทั่ว ๆ ไปได้
โทลโคลฟอส เม็ทธิล
(tolclofos methyl)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา organophosphate ประเภทไม่ดูดซึม ออกฤทธิ์เมื่อสัมผัสถูกและให้ผลในทางป้องกันโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 5,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 5,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ ใช้กำจัดโรคพืชที่เกิดอยู่ในดิน เชื้อ Rhizoctonia , Sclerotinium และ Typhula spp. ซึ่งทำให้เกิดโรคเน่าคอดิน โรคลำต้นเน่าและอื่น ๆ
พืชที่ใช้ มันฝรั่ง ฝ้าย ถั่วลิสง พืชตระกูลแตง ข้าวสาลี ผักกาดหอม และต้นกล้าของไม้ดอก ไม้ประดับทั่วไป
สูตรผสม 50% ดับบลิวพี 20% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ได้หลายวิธีคือ คลุกเมล็ด ใช้จุ่มพืชหัว ใช้ราดโคนต้น และใช้ฉีดพ่นที่ใบ โดยมีอัตราการใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– ห้ามผสมกับสารอื่นที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
– มีความคงตัวเมื่ออยู่ในดิน
ไตรอะไดมีฟอน
(triadimefon)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา triazole ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกัน และบำบัดรักษาโรคพืช ดูดซึมเข้าลำต้นได้ทั้งทางใบและราก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 602 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,000 มก./กก. อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคราสนิม โรคราแป้ง โรคกลิ่นสัปปะรด โรคแส้ดำ Cercospora โรคเน่าสีน้ำตาล Fusarium , Puccinia , Ustilago , Uromyces , Cladosporium , Venturia โรคสแคป โรคสมัทและอื่น ๆ
พืชที่ใช้ อ้อย กาแฟ ถั่วเหลือง เงาะ ข้าวสาลี องุ่น สัปปะรด แอปเปิล พืชตระกูลแตง กุหลาบ ไม้ผลและอื่น ๆ
สูตรผสม 25% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ถ้าใช้ฉีดพ่น ใช้อัตรา 10-20 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช ถ้าใช้แช่ท่อนพันธุ์ ใช้อัตรา 40-50 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร แช่ท่อนพันธุ์นาน 30 นาที จึงนำไปปลูก
อาการเกิดพิษ จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เซื่องซึมและตี่นเต้น
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไปต้องทำให้อาเจียนโดยเร็ว ด้วยการล้วงคอหรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น แล้วนำส่งแพทย์ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 14-21 วัน
– ผสมได้เฉพาะกับสารกำจัดศัตรูพืชอื่นที่อยู่ในรูปดับบลิวพี (WP)
– เป็นพิษต่อปลา ไม่เป็นพิษต่อผึ้ง
– ใช้ผสมในขณะฉีดพ่นร่วมกับสารกำจัดศัตรูพืชอย่างอื่นได้
ไตรไซคลาโซล
(tricyclazole)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา triazolobenzothiazole ประเภทดูดซึม
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนูอัลปิโน) 250 มก./กก. (หนู) 305 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคใบไหม้ ที่เกิดจากเชื้อ Pyricularia oryzae และโรคจุดสีน้ำตาล ที่เกิดจากเชื้อ Drechslera spp.
พืชที่ใช้ ข้าว ข้าวบาร์เลย์
สูตรผสม 75% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ ถ้าฉีดพ่นใช้อัตรา 10-16 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ถ้าคลุกเมล็ด ใช้อัตรา 2 กรัม ต่อเมล็ดหนัก 1 กก. คลุกเมล็ดก่อนปลูก
อาการเกิดพิษ ถ้าเข้าตาจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังหรือดวงตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไปให้คนไข้ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว แล้วทำให้อาเจียนด้วยการล้วงคอ หรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น แล้วนำส่งแพทย์ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เป็นพิษต่อปลา
– ในขณะฉีดพ่น ให้เขย่าถังฉีดอยู่เสมอ
– ดูดซึมและเคลื่อนย้ายในต้นพืชได้อย่างรวดเร็ว
– อาจใช้ผสมในขณะฉีดพ่นกับสารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่น ๆ ได้
ไตรดีมอร์ฟ
(tridemorph)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา morpholine ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันและปราบโรคพืชให้หมดไป ดูดซึมได้ทั้งทางใบและราก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก 650 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 4,000 มก./กก. (หนู) อาจทำให้ผิวหนังและดวงตาระคายเคือง
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคราแป้ง โรคซิกาโตก้า โรค Eye Spot ของกาแฟและโรคสีชมพูของชาและกาแฟ
พืชที่ใช้ ข้าว ข้าวสาลี ธัญพืชอื่น ๆ กาแฟ กล้วย พืชตระกูลแตง ต้นยางพารา มะม่วง ไม้ผล และผักทั่วไป
สูตรผสม 75% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ผสมน้ำฉีดพ่นทุก 14-21 วัน ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนใช้
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 2-4 อาทิตย์
– เป็นพิษต่อปลา
– ใช้กับธัญพืชจะมีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน 3-4 อาทิตย์
– เข้ากับสารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่น ๆ ได้
ไตรฟลูมาโซล
(triflumazole)
การออกฤทธิ์ เป็นสารป้องกันและกำจัดโรคพืช
ความเป็นพิษ
ศัตรูพืชที่กำจัดได้ โรคใบจุดของสตรอเบอร์รี่ ที่เกิดจากเชื้อ Ramularia tulasnei และโรคพืชอื่น ๆ
สูตรผสม 30% WP
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตรา 6 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช เมื่อตรวจพบว่ามีอาการของโรคระบาดและควรพ่นทุก 7 วัน
อาการเกิดพิษ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง ถ้าเข้าปากจำนวนมาก จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ
การแก้พิษ ถ้าเป็นพิษที่ผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่มาก ๆ ถ้าเข้าปากรีบทำให้คนไข้อาเจียนด้วยการล้วงคอ และรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ สำหรับแพทย์ ถ้าคนไข้ยังมีสติดีทำให้อาเจียน ถ้าผู้ป่วยหมดสติ ให้ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว แล้วใช้น้ำล้างคอ เพื่อทำให้อาเจียน แล้วรักษาตามอาการ
ไตรโฟรีน
(triforine)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา piperazine ประเภทดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันและบำบัดรักษาโรคพืช ดูดซึมได้ทั้งทางใบและราก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 16,000 มก./กก. ทางผิวหนัง (กระต่าย) มากกว่า 10,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคราแป้ง โรคใบไหม้ โรคเน่าคอดิน โรคราสนิม โรคแอนแทรคโนส โรคเน่าดำ โรคใบจุดและอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ข้าว ธัญพืช องุ่น กุหลาบ แอปเปิล พืชตระกูลแตง ถั่วเหลือง บวบ ฝ้าย ยาสูบ ผักบางชนิดและพืชอื่น ๆ
สูตรผสม 19% อีซี
อัตราใช้และวิธีใช้ อัตราการใช้แตกต่างกันไปตามชนิดของพืช โดยทั่ว ๆ ไปใช้ 15-20 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นใบ ใช้ซ้ำได้ทุก 1-2 อาทิตย์ต่อครั้ง ศึกษารายละเอียดวิธีการใช้เพิ่มเติมจากฉลากก่อนใช้
อาการเกิดพิษ ถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตา อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ถ้ากินเข้าไปอาจทำให้หายใจไม่ออกและชัก
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำจำนวนมาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไป ห้ามทำให้คนไข้อาเจียน นำผู้ป่วยส่งแพทย์ สำหรับแพทย์ ล้างท้องคนไข้ แล้วให้กินถ่านยาแอ๊คติเวทเต็ด ซาร์โคล รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 7-14 วัน
– ห้ามผสมกับ wetting agent , spreader , sticker or adjuvants
– ไม่มีความคงตัวเมื่ออยู่ในดิน มีอายุอยู่ได้ประมาณ 3 อาทิตย์
– ไม่เป็นพิษกับปลา
– ใช้ปราบไรแมงมุมได้
– ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ ได้
วาลิดามัยซิน
(validamycin)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อราปฏิชีวนะ (antibiotic) ประเภทดูดซึม
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) มากกว่า 20,000 มก./กก. ทางผิวหนัง (หนู) มากกว่า 5,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคใบไหม้ของข้าว โรคโคนเน่า รากเน่า ที่เกิดจากเชื้อ Basidiomyceres spp. และ Rhizotonia spp. และอื่น ๆ
พืชที่ใช้ ข้าว ส้ม มันฝรั่ง กาแฟ โกโก้ พืชผักตระกูลต่าง ๆ และพืชไร่
สูตรผสม 3% อีซี 5% เอสพี 0.3% ฝุ่น
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้ฉีดพ่นที่ใบ ราดโคนต้น คลุกดินและใช้เป็นสารคลุกเมล็ด โดยใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ถ้าฉีดพ่นที่ใบ ใช้ซ้ำได้ทุก 7-10 วัน
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – เข้าได้กับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ
– ให้ผลดีที่สุดในการกำจัดโรคที่เกิดจากดิน
วินโคลโซลิน
(vinclozolin)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา dicarboximide หรือ oxazolidine ประเภทไม่ดูดซึม ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันโรคพืชและทำให้สปอร์ไม่งอก
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 10,000 มก./กก. ทางผิวหนัง มากกว่า 2,500 มก./กก. (หนู)
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคลำต้นเน่าที่เกิดจากเชื้อ Altermaria และ Botrytis โรคเน่าสีน้ำตาล โรค Dollar spot โรคFusarium patch โรคใบจุด และโรคที่เกิดจากเชื้อ Sclerotinia และ Monillia spp.
พืชที่ใช้ ผักกาดขาว องุ่น ถั่วแขก และถั่วอื่น ๆ คื่นฉ่าย หอม มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ พริกไทย แตงกวา และพืชอื่น ๆ
สูตรผสม 50% ดับบลิวพี และ เอสซี
อัตราใช้และวิธีใช้ ใช้อัตราตามคำแนะนำบนฉลาก ผสมกับน้ำฉีดพ่นที่ใบพืช ทุก 7-14 วัน ให้ใช้ก่อนที่พืชจะเป็นโรค
การแก้พิษ ไม่มียาแก้พิษโดยเฉพาะ รักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 7-14 วัน
– เป็นอันตรายเมื่อถูกผิวหนังและอาจทำให้ดวงตาเกิดอาการระคายเคือง
– เข้ากับสารกำจัดศัตรูพืชอื่น ๆ ได้
– ไม่เป็นอันตรายต่อผึ้ง
ไซเน็บ
(zineb)
การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดเชื้อรา dithiocarbamate ออกฤทธิ์ให้ผลในทางป้องกันโรคพืช
ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก (หนู) 5,200 มก./กก. ทางผิวหนัง (หนู) มากกว่า 6,000 มก./กก.
โรคพืชที่กำจัดได้ โรคราน้ำค้าง โรคใบไหม้ โรคราสนิม โรคแอนแทรคโนส โรคใบจุด โรคราดำ โรคกุ้งแห้งและอื่น ๆ
พืชที่ใช้ องุ่น ถั่ว มันฝรั่ง มะเขือเทศ หอม กระเทียม พริก ผักต่าง ๆ แอสพารากัส กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก แครอท คื่นฉ่าย ส้ม ข้าวโพด ฝ้าย แตงกวา มะเขือ คะน้า ผักกาดหอม แตงโม พริกไทย ฟักทอง สตรอเบอร์รี่ ยาสูบ และอื่น ๆ
สูตรผสม 70% และ 80% ดับบลิวพี
อัตราใช้และวิธีใช้ โดยทั่วไปใช้อัตรา 40-80 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร กวนให้เข้ากันดี แล้วฉีดพ่นที่ใบให้ทั่วต้นพืช ใช้ซ้ำได้ทุก 1-2 อาทิตย์ต่อครั้ง
อาการเกิดพิษ ถ้ากลืนกินเข้าไป จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและเซื่องซึม ถ้าถูกผิวหนัง เยื่อบุดวงตาและจมูก อาจทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง
การแก้พิษ ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำกับสบู่ ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก ๆ ถ้ากินเข้าไปต้องรีบทำให้อาเจียน แล้วล้างท้องด้วย laxative salt แล้วรักษาตามอาการ
ข้อควรรู้ – ระยะเวลาที่ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว 1-2 อาทิตย์
– ไม่เข้ากับสารอื่นที่มีสภาพเป็นด่างหรือมีสารปรอทเป็นองค์ประกอบ
– ใช้ฉีดพ่นก่อนที่พืชจะเป็นโรค
– เข้ากับสารกำจัดเชื้อราและสารกำจัดแมลงอื่น ๆ ได้