Day: November 6, 2019
เป็นธาตุอาหารรอง จากธาตุอาหารหลัก N , P , K ซึ่งมาจากองค์ประกอบหลายชนิด ที่เรารู้จักกันมากในกลุ่มของเกลือแคลเซี่ยมอิสระ พวกปูนต่างๆ ได้แก่ หินปูน โดโลไมท์ ยิปซั่ม ฯลฯ ธาตุแคลเซี่ยมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผนังเซลล์ อยู่ในรูปของของ แคลเซี่ยมเพคเตต ช่วยในการแบ่งเซลล์ ช่วยในการสร้างโปรตีน และช่วยในการทำงานของเอมไซม์
ธาตุแคลเซี่ยมที่อยู่ในดิน มี 2 รูป คือ อินทรีย์แคลเซี่ยม พืชเอาไปใช้ประโยชน์ได้น้อย ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของไพติน และแคลเซี่ยมเพคเนต พืชจะนำไปใช้ได้จะต้องถูกจุลทรีย์ย่อยสลายเปลี่ยนจากอินทรีย์แคลเซี่ยมไปเป็น อนินทรีย์แคลเซี่ยมก่อน จะอยู่ในรูป “แคลเซี่ยม ไอออน”
ธาตุแมกนีเซี่ยม คือธาตุอาหารรอง จากธาตุอาหารหลัก N , P , K พืชที่มีสีเขียวทุกชนิดต้องการเพื่อการเจริญเติบโต เนื่องจากแมกนีเซี่ยมมีส่วนร่วมในการสร้างเม็ดสีเขียว ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ เพื่อช่วยในขบวนการสังเคราะห์แสง กระบวนการหายใจ การทำงานของระบบเอมไซม์ และยังช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุฟอสฟอรัส (จากส่วนที่แก่ไปยังส่วนอื่นๆ ที่อ่อนกว่าของต้น) ช่วยในการสร้างไขมันในพืช รวมทั้งช่วยให้พืชมีความต้านทานต่อโรคที่เกิดจากเชื้อบางชนิด นอกจากนี้แล้วแมกนีเซี่ยมยังเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์โดยอยู่ในรูปของ แมกนีเซี่ยม เพคเตท
เป็นธาตุอาหารรอง จากธาตุอาหารหลัก N , P , K พืชต้องการในปริมาณที่น้อยกว่าธาตุอาหารหลัก แต่มีความจำเป็นต่อพืชมาก เพราะธาตุกำมะถันเป็นองค์ประกอบสำคัญของกรดอะมิโน และโปรตีน และวิตามินบางชนิด และยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของสารระเหยในพืช (ทำให่พืชมีกลิ่นเฉพาะตัว) เช่น กระเทียม หัวหอม ทุเรียน ฯลฯ
เป็นธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณที่น้อย แต่ขาดไม่ได้ หรือเรียกว่า “จุลธาตุ”
สังกะสีจะทำหน้าที่ร่วมในกระบวนการอ๊อกซิเดชั่น ของเซลล์พืช ช่วยในการเคลื่อนย้ายคาร์โบไฮเดรท การควบคุมการใช้น้ำตาลของพืช เป็นตัวร่วมในการผลิตคลอโรฟิลล์ และเป็นส่วนประกอบของอ๊อกซิน และฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
ธาตุสังกะสีจึงมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับขบวนการทางชีวเคมีต่างๆ ของพืช ได้แก่
1.ขบวนการ การสังเคราะห์แสง และการสร้างน้ำตาล
2.การสังเคราะห์โปรตีน
3.การเจริญพันธุ์ และการเพาะเมล็ด
4.การเจริญเติบโตของพืช
5.การตัานทานต่อโรคพืช
เป็นจุลธาตุที่สำคัญต่อพืชธาตุหนึ่ง แม้ว่าพืชจะดูดดึงไปใช้น้อยกว่า ธาตุเหล็ก แมงกานีส สังกะสี เนื่องจากธาตุทองแดงมีบทบาทสำคัญในขบวนการสังเคราะห์แสง ขบวนการสร้างคลอโรฟิลล์ ระบบหายใจของพืช ระบบระเหยน้ำ ช่วยในการสืบพันธุ์ ขยายพันธุ์ และเป็นองค์ประกอบสำคัญของเอ็นไซม์ หลายชนิด นอกจากนั้นยังพบว่าธาตุทองแดงยังเป็นตัวช่วยทำให้ธาตุอื่น บางชนิดเป็นประโยชน์ หรือไม่เป็นประโยชน์ ต่อพืชอีกด้วยธาตุทองแดงที่อยู่ในดินจะมีหลายสภาพ เช่น ไอออนที่แลกเปลี่ยนได้ (อยู่ที่ผิวของคอลลอยด์) บางส่วนอยู่ในสภาพสารประกอบอินทรีย์ (ซึ่งละลายได้ยาก พืชนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้)) และอยูในสภาพไอออนละลายอยู่ในดิน (พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้)